หลังการประชุมระหว่างผู้นำรัสเซียและรมว.กลาโหมซาอุดิอาระเบีย นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียเปิดเผยว่า "ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ ที่สามารถดำเนินการได้จริงเพื่อไปสู่แนวทางแก้ปัญหาทางการเมืองในซีเรีย"
สำนักข่าว TASS รายงานโดยอ้างคำพูดของนายลาฟรอฟว่า ทั้งฝ่ายรัสเซียและซาอุดิอาระเบียยังเน้นย้ำถึงความสำคัญในการไม่ยอมให้กลุ่มก่อการร้ายมีความได้เปรียบในซีเรีย
นายลาฟรอฟเสริมว่า "รัสเซียและซาอุดิอาระเบียมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างความร่วมมือระดับชาติในซีเรีย เพื่อให้ชาวซีเรีย ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือศาสนาใดก็ตาม รู้สึกเป็นเจ้าของดินแดนของพวกเขา"
การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังผ่านไปเกือบสองสัปดาห์ นับตั้งแต่รัสเซียโจมตีกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ทางอากาศในซีเรียเมื่อวันที่ 30 ก.ย. โดยประเทศตะวันตกมองว่าปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียมีเป้าหมายที่กลุ่มกบฎซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลซีเรีย แทนที่จะเป็นการโจมตีกลุ่ม IS
อย่างไรก็ดี รัสเซียปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว และเปิดเผยว่ารัสเซียไม่มีวาระแฝงทางการเมืองใดในซีเรีย รวมถึงการระเบิดฐานที่มั่นของกลุ่ม IS ก็สอดคล้องกับความตั้งใจของสหรัฐ
ทั้งนี้ ระหว่างการเจรจาปธน.ปูตินย้ำว่ารัสเซียเข้าใจความวิตกของซาอุดิอาระเบียเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย โดยได้อ้างถึงระยะเวลาหลายปีของการร่วมมือในประเด็นดังกล่าวของทั้งประเทศ
นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียเน้นว่า การโจมตีทางอากาศของรัสเซียที่กำลังดำเนินอยู่ในซีเรียนั้น มีเป้าหมายที่กลุ่ม IS และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ โดยเฉพาะ
ก่อนหน้านี้ในการสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์กับช่องรอสสิย่า 24 ปธน.ปูตินกล่าวว่า รัสเซียได้สอดแนมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนดำเนินการโจมตีตอบโต้กลุ่มก่อการร้าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน