ผู้นำ EU กล่าวในแถลงการณ์ว่า "การจัดการกับปัญหาผู้อพยพและผู้ลี้ภัยนั้นถือเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมประกอบกับความมุ่งมั่นด้วยความสามัคคีและรับผิดชอบ"
ผู้นำยุโรปได้น้อมรับแผนปฏิบัติการระหว่าง EU และตุรกี เพื่อจัดการกับวิกฤติผู้ลี้ภัย โดยระบุว่า "หากประสบผลสำเร็จแล้วก็จะช่วยเร่งให้เกิดแผนแม่บทด้านการเปิดเสรีวีซ่าแก่ประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมทั้งหมด รวมถึงข้อตกลงรับกลับ (Readmission Agreement)"
แถลงการณ์ระบุว่า สหภาพยุโรปและประเทศสมาชิก "พร้อมกระชับความร่วมมือกับตุรกี และยกระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการเงินภายใต้กรอบดังกล่าว"
ผู้นำยุโรปได้เรียกร้องให้มีการยกระดับมาตรการป้องกันชายแดนรอบนอกของยุโรป รวมถึงการจัดตั้งระบบบริหารจัดการแบบบูรณาการบนชายแดนรอบนอก
สำหรับแผนพัฒนาระบบตรวจชายแดนและรักษาการณ์ชายฝั่งยุโรปร่วมกับประเทศสมาชิกที่เกี่ยวข้องนั้นยังอยู่ระหว่างการหารือ
ในส่วนของแผนตอบรับกับกระแสผู้ลี้ภัยที่หลั่งไหลเข้ามาในยุโรปนั้น ผู้นำยุโรปจึงได้ตกลงที่จะจัดตั้งระบบระบุตัวตน ลงทะเบียน เก็บลายนิ้วมือ และรองรับผู้ขอการคุ้มครองระหว่างประเทศรวมถึงผู้อพยพรายอื่นๆ เช่นเดียวกับการย้ายถิ่นฐานและตั้งรกรากใหม่
นอกจากนี้ ผู้นำยุโรปยังได้ตกลงที่จะจัดตั้งสำนักงานส่งตัวกลับภายใต้สังกัดของ Frontex ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความยุติธรรมและมหาดไทยของสหภาพยุโรป เพื่อให้การสนับสนุนประเทศสมาชิก EU ก่อนสิ้นปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน