นายร็อบ เวนไรท์ ผู้อำนวยการ Europol กล่าวต่อสื่อมวลชนขณะเปิดตัวศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งยุโรป (ECTC) ว่า "กลุ่ม IS ได้คิดค้นรูปแบบการโจมตีขึ้นใหม่ ซึ่งสามารถเปิดการโจมตีขนานใหญ่ในระดับโลก โดยมียุโรปเป็นจุดหมายสำคัญ"
การประกาศเตือนจากนายเวนไรท์นั้น อ้างอิงข้อมูลจากผลการค้นพบสำคัญในรายงานที่ Europol ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ ซึ่งระบุถึงเหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ปีที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวระบุว่า ประเทศสมาชิกยุโรปโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝรั่งเศส อาจเผชิญกับการก่อการร้ายอีกซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสังหารพลเมืองเป็นจำนวนมาก พร้อมยกให้ภัยคุกคามจากกลุ่ม IS เป็นภัยที่ย่ำแย่ที่สุดเท่าที่ยุโรปเคยเผชิญในรอบกว่า 10 ปี
สำหรับความเชื่อมโยงระหว่างกระแสผู้ลี้ภัยไหลเข้ายุโรปกับภัยก่อการร้ายนั้น รายงานดังกล่าวระบุว่า "ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนที่ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มก่อการร้ายใช้กระแสผู้ลี้ภัยเพื่อแฝงตัวเข้ายุโรป" โดยนายเวนไรท์ยืนยันว่า Europol จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งหมด "ในการจัดการกับการเข้าเมืองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย"
รายงานระบุว่า "กลุ่ม IS ที่ขณะนี้กำลังปฏิบัติการอยู่ในสหภาพยุโรปนั้นส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่" พร้อมชี้แนะว่า ประเทศสมาชิกยุโรปควรมีการดำเนินงานมากกว่านี้ในการหลอมรวมกลุ่มผู้อพยพ เนื่องจาก "ภัยอันตรายที่แท้จริงและใกล้ตัวเช่นนี้อาจก่อตัวขึ้นจากกลุ่มผู้ลี้ภัยชาวซีเรียนิกายซุนนี ซึ่งอาจตกเป็นเป้าของลัทธิสุดโต่งเมื่ออาศัยอยู่ในยุโรป และอาจถูกเชิญชวนเข้ากลุ่ม IS"
ทั้งนี้ ศูนย์ ECTC จะกลายเป็นแหล่งข้อมูลกลางที่ประเทศสมาชิกสามารถเข้ามายกระดับการแบ่งปันข้อมูลและประสานการทำงาน โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักสู้ชาวต่างชาติที่ปฏิบัติการอยู่ในยุโรป 5000 ราย เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้ "เป็นภัยคุกคามด้านการก่อการร้ายในยุโรปทุกๆวันนี้" ปัจจุบันทาง Europol มีแฟ้มเอกสารที่ระบุตัวนักสู้ชาวต่างชาติอย่างละเอียดในพื้นที่ขัดแย้งประมาณ 3700 ราย สำนักข่าวซินหัวรายงาน