นายอพันดีกล่าวในการแถลงข่าวว่า จำนวนเงินที่แท้จริงคือ 2.08 พันล้านริงกิต (ราว 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นเงินบริจาคส่วนตัวจากราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียและเป็นการให้โดยปราศจากเงื่อนไข
นายอพันดีกล่าวว่า จากเอกสารการสอบสวน 2 ฉบับเกี่ยวกับบริษัท เอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นอดีตบริษัทย่อยของกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจ วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) นั้น ไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ชี้ว่านายนาจิบมีส่วนรู้เห็นหรืออนุมัติการโอนเงินจากบัญชีของบริษัทเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบเอง
นายอพันดีกล่าวด้วยว่าจะส่งเอกสารการสอบสวนที่เกี่ยวข้องไปยังคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตของมาเลเซียภายในวันนี้ พร้อมคำสั่งเพื่อปิดคดี สำนักข่าวซินหัวรายงาน