"เครื่องบินรบรัสเซียละเมิดน่านฟ้าของตุรกีเมื่อวานนี้ (วันศุกร์) แม้ได้รับคำเตือนจากทางการตุรกีหลายครั้ง" นายสโตลเทนเบิร์กกล่าวในแถลงการณ์ และระบุเพิ่มเติมว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นแล้วถึงอันตรายของการกระทำเช่นนี้" พร้อมทั้งขอให้รัสเซียมีความรับผิดชอบ และเคารพน่านฟ้าของนาโต้ โดยตุรกีได้เข้าเป็นสมาชิกของนาโต้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495
นายสโตลเทนเบิร์กยังได้เรียกร้องให้รัสเซียใช้มาตรการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อรับรองว่าการรุกล้ำดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีก "ผมยินดีหากจะมีการติดต่อพูดคุยกันโดยตรงระหว่างรัฐบาลตุรกีและรัสเซีย และผมขอให้เกิดความสงบและขอให้ความขัดแย้งลดลง"
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า พันธมิตรนาโต้ได้เห็นชอบในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาให้มีการส่งเครื่องบินสอดแนม AWACS บินเหนือน่านฟ้าตุรกี นอกจากนี้ นายสโตลเทนเบิร์กยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านกลไกความสัมพันธ์ระดับนานาชาติกับรัสเซีย หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เครื่องบินรบรัสเซียถูกตุรกียิงตกเมื่อเดือนพฤศิกายนปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันสื่อท้องถิ่นของรัสเซียรายงานในวันเสาร์ว่า กองทัพอากาศรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลตุรกีที่ว่าเครื่องบินรบ SU-34 ของรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของตุรกีเมื่อวันศุกร์
ด้านนาย อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวของตุรกีว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่มีมูลความจริง ระบุเครื่องบินรบรัสเซียที่ปฏิบัติภารกิจในซีเรียไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าตุรกีแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้งนี้ กองทัพอากาศตุรกีได้ยิงเครื่องบินรบรัสเซียตกเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เหตุเครื่องบินลำดังกล่าวรุกล้ำน่านฟ้าของตุรกี ขณะที่รัสเซียยืนกรานปฏิเสธว่า เครื่องบิน Su-24 บินอยู่เหนือซีเรีย และไม่ได้รุกล้ำเข้าไปยังน่านฟ้าตุรกีแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ กองทัพอากาศตุรกีก็ได้เพิ่มระดับเตือนภัยที่ฐานทัพอากาศเป็น "สีส้ม" และมีคำสั่งให้นักบินยิงเครื่องบินทุกลำที่ละเมิดน่านฟ้าของประเทศ