นายซันเกเนห์แสดงความหวังว่า "ปริมาณน้ำมันนำเข้าจากอิหร่านของญี่ปุ่นจะเท่าระดับก่อนที่จะเกิดการคว่ำบาตรอิหร่านในปี 2555" โดยนายซันเนเกห์กล่าวหลังจากประชุมร่วมกับนายคัตซึยูกิ คาวาอิ ที่ปรึกษาพิเศษของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เมื่อวานนี้ ที่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน
"เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิก ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศจึงอาจเติบโตขึ้นอย่างมาก" นายซันเกเนห์กล่าว พร้อมกับเสริมด้วยว่า "อิหร่านและญี่ปุ่นจะได้รับผลดีจากความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ในหลากหลายด้าน ซึ่งรวมถึงภาคพลังงาน"
รัฐมนตรีน้ำมันอิหร่านระบุว่า การส่งออกน้ำมันมีส่วนสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและญี่ปุ่น และ "เราหวังว่าบริษัทญี่ปุ่นจะนำเข้าน้ำมันอิหร่านในระดับเดียวกับช่วงก่อนที่จะมีการคว่ำบาตรอิหร่าน"
เขากล่าวว่า อิหร่านและญี่ปุ่นสามารถร่วมมือกันในหลายส่วนของภาคอุตสาหกรรมพลังงาน อาทิ การกลั่นผลิตภัณฑ์น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเหลว การผลิตปิโตรเคมี การลงทุน และการระดมทุนในโครงการน้ำมันมันของอิหร่าน
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นและอิหร่านได้ลงนามข้อตกลงการลงทุนเมื่อวันที่ 5 ก.พ. เพื่อเปิดทางให้บริษัทญี่ปุ่นเข้ามาทำธุรกิจในอิหร่าน หลังจากที่ญี่ปุ่นยกเลิกการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ภายหลังสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ยืนยันว่าอิหร่านได้ยุติโครงการนิวเคลียร์ตามที่ได้ทำข้อตกลงกับชาติมหาอำนาจแล้ว
นายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้กล่าวในพิธีลงนามข้อตกลงร่วมกับนายอาลี เตย์เยบเนีย รัฐมนตรีกระทรวงกิจการเศรษฐกิจของอิหร่าน ที่กรุงโตเกียวว่า ตนหวังว่าข้อตกลงนี้จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและอิหร่านให้ดีขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน