แถลงการณ์จากโฆษกท่านนี้ยังระบุว่า "เราขอคัดค้านและเรียกร้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก" แถลงการณ์นี้มีขึ้นหลังจากที่ญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเข้าร่วมงานของรัฐบาลจังหวัดชิมาเนะ ซึ่งอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะดังกล่าว หมู่เกาะที่ว่านี้มีชื่อภาษาเกาหลีว่าเกาะด็อกโด และมีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่าเกาะทาเกชิมะ
นายยาสึยูกิ ซากาอิ เลขาธิการรัฐสภาประจำสำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เป็นผู้ที่ได้เดินทางร่วมพิธี "Takeshima Day" ประจำปีครั้งที่ 11 ซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาลจังหวัดชิมาเนะ เพื่อแสดงถึงจุดยืนของญี่ปุ่นว่าหมู่เกาะดังกล่าวเป็นของญี่ปุ่น
ด้านเกาหลีใต้มองว่า การกระทำของญี่ปุ่นนั้นไม่เป็นไปตามความตั้งใจที่เคยให้ไว้ในการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ หลังจากที่เมื่อปลายปีก่อนหน้าได้มีการตกลงกันในประเด็นทาสทางเพศ
นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังย้ำถึงจุดยืนของตนว่า หมู่เกาะดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญของดินแดนเกาหลีทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และกฎหมายระหว่างประเทศ
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน เพื่อคลี่คลายข้อบาดหมางสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทหารญี่ปุ่นได้ใช้ผู้หญิงชาวเกาหลีใต้เป็นทาสทางเพศ
ทั้งสองประเทศได้มีข้อตกลงเพื่อยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนานในประเด็นทาสทางเพศ หลังจากที่นายฟุมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น และนายยุน บยัง เซ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้ ได้หารือร่วมกันที่กรุงโซล
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้ตกลงที่จะจัดตั้งกองทุนขึ้นใหม่เป็นมูลค่าราว 1 พันล้านเยนให้แก่ผู้หญิงกลุ่มนี้ โดยกองทุนที่ว่านี้รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นผู้จัดหางบสนับสนุน