สำนักข่าว KCNA รายงานว่า คณะกรรมการกลาโหมแห่งชาติของเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า กองทัพและประชาชนเกาหลีเหนือ "จะดำเนินการตอบโต้ทางการทหารโดยการลงมือโจมตีศัตรูก่อน และเริ่มการโจมตีอย่างเต็มรูปแบบ" เพื่อรับมือกับการซ้อมรบร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐ
แถลงการณ์ระบุว่า มาตรการตอบโต้ทางการทหารของเกาหลีเหนือ "จะเป็นการป้องกันโดยโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์" เพื่อจัดการกับศัตรู "ที่ซ้อมรบอย่างโจ่งแจ้งที่สุดซึ่งมีเป้าหมายในการล่วงล้ำอำนาจอธิปไตยของเกาหลีเหนือ"
การป้องกันโดยโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ "คือการปฏิบัติตามคำสั่งที่ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพประชาชนเกาหลี (KPA) ระบุไว้โดยเฉพาะในแถลงการณ์สำคัญ"
ผู้บัญชาการสูงสุดของ KPA ระบุในแถลงการณ์ว่า เป้าหมายการโจมตีแรกจะเป็นสำนักประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่มีชื่อว่าชองวาแด ส่วนเป้าหมายที่สองคือทำเนียบขาวและแผ่นดินสหรัฐ
แถลงการณ์เสริมว่า สถานการณ์กำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากการซ้อมรบที่ประกอบด้วย "ปฏิบัติการเด็ดหัว" นั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัดความเป็นผู้นำของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ KPA และประชาชนเกาหลีจะเปลี่ยนการโจมตีทั่วไปสู่ "การแสดงแสนยานุภาพทางการทหารอันน่าเกรงขามอย่างเต็มรูปแบบโดยมีแรงนิวเคลียร์ (nuclear force) เป็นตัวขับเคลื่อน"
ด้านกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์ประณามเกาหลีใต้และสหรัฐ จากการพิจารณาซ้อมรบร่วมภายใต้ชื่อว่า "Key Resolve" และ "Foal Eagle" โดยระบุว่า การซ้อมรบดังกล่าว "เป็นการซ้อมทำสงครามที่อันตราย" ในลักษณะที่ก้าวร้าว
ก่อนหน้านี้ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้เปิดเผยระหว่างแนะแนวการทดสอบยิงเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องขนาดใหญ่ว่า กองทัพเกาหลีเหนือควรเตรียมความพร้อมที่จะยิงหัวรบนิวเคลียร์ตลอดเวลา และเกาหลีเหนือจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหนทางเดียวในการปกป้องอำนาจอธิปไตยของประเทศ
การซ้อมรบร่วมประจำปีระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐมีกำหนดเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ ไปจนจนถึงวันที่ 30 เม.ย. โดยรายงานระบุว่า ในปีนี้จะเป็นการซ้อมรบครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด และใช้อาวุธล้ำสมัยที่สุด สำนักข่าวซินหัวรายงาน