บรรดารัฐมนตรีกลุ่ม EU ได้บรรลุข้อตกลงในที่ประชุมสภากิจการต่างประเทศว่า การปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ (Minsk) ควรเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดจุดยืนของ EU ต่อรัสเซีย
นอกจากนี้ ยังได้มีการตกลงกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตรฝั่งตะวันออก (Eastern Partner) รวมถึงประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอเชียกลาง พร้อมยกระดับความยืดหยุ่นของ EU ในแง่ของความมั่นคงทางพลังงาน ภัยคุกคามแบบผสม หรือการสื่อสารเชิงกลยุทธ์
รัฐมนตรีต่างประเทศยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตอบโต้รัสเซียเฉพาะจุดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ EU รวมถึงการดำเนินการแบบ people-to-people และส่งเสริมประชาสังคมรัสเซีย
นางเฟเดอริกา โมเกอรินี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า "เราจะกลับมาพิจารณาในเรื่องของการคว่ำบาตรเมื่อสมควร ไม่ว่าจะในการประชุมสภากิจการต่างประเทศ และ/หรือสภายุโรป"
ในที่ประชุมยังได้หารือในเรื่องของความสัมพันธ์กับอิหร่าน รวมถึงแนวโน้มในการร่วมงานหลังจากที่ได้มีการทำข้อตกลง Joint Comprehensive Plan of Action และการยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมดของ EU ที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์
นางโมเกอรินีได้ชี้แจงถึงแผนการเดินทางไปยังกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่านในเดือนหน้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อหาช่องทางความร่วมมือใหม่ๆกับอิหร่าน พร้อมกับคณะกรรมาธิการยุโรป
นอกจากนี้ นางโมเกอรินี กล่าวว่า "เราจะมีการปรึกษาหารือในเรื่องของการเมือง รวมถึงสิทธิมนุษยชน แต่ก็จะมีการพูดคุยและร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนด้วยในเรื่องพลังงาน เช่น น้ำมันและก๊าซ พลังงานหมุนเวียน และการประหยัดพลังงาน เช่นเดียวกับความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ตามที่ปรากฎในข้อตกลง JCPOA" สำนักข่าวซินหัวรายงาน