โฆษกระบุในการแถลงข่าวว่า “เราจะต้องพิจารณาถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของรัสเซีย"
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ประกาศในช่วงเช้าวานนี้ว่า กองทัพอากาศของรัสเซียจะเริ่มถอนกำลังออกจากพื้นที่ต่างๆในซีเรียตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.
ปธน.ปูตินกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวได้มีการหารือและประสานงานกับปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียผ่านทางโทรศัพท์ในช่วงเช้าวานนี้ พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า หน้าที่หลักสำหรับกองกำลังติดอาวุธรัสเซียในซีเรียเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว"
นายเอิร์นเนสกล่าวว่า “เราได้หารือกันว่าการดินหน้าแทรกแซงทางทหารของรัสเซียเพื่อช่วยสนับสนุนระบอบการปกครองของปธน.อัสซาด ได้ทำให้เจตนารมณ์ในการบรรลุการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองมีความยากลำบากมากขึ้นอย่างไร"
โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า “เป็นเรื่องยากสำหรับผมในการตีความนัยยะของการเจรจาครั้งนี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่การเคลื่อนไหวดังกล่าว"
ด้านนายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ออกมาเปิดเผยในวันเดียวกันว่า ทางกระทรวงยังไม่ได้มีการประเมินรายงานการถอนกองกำลังทหารรัสเซียออกจากซีเรีย พร้อมระบุว่า “ผมยังไม่เห็นรายงานดังกล่าว ดังนั้น ผมจึงยังไม่ออกความคิดเห็นใดๆจนกว่าจะเห็นรายงานและประเมินสถานการณ์"
ทั้งนี้ รัสเซียเริ่มปฏิบัติหารทางอากาศในซีเรียเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 จากนั้น สหรัฐและรัสเซียมีความเห็นพ้องในด้านแผนการยุติการสู้รบในซีเรียที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาการยุติความเป็นศัตรูในเมืองมิวนิคเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ระหว่างการประชุมกลุ่มสนับสนุนซีเรียนานาชาติ ที่มีสหรัฐและรัสเซียเป็นประธานการประชุมร่วมกัน
กลุ่มดังกล่าวประกอบด้วย สันนิบาตอาหรับ สหภาพยุโรป องค์การสหประชาชาติ และอีก 17 ประเทศ รวมถึงประเทศจีน