นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า รัฐบาลรัสเซียมีความเห็นว่า การให้บริการสายการบินสู่อียิปต์อีกครั้งนั้นยังเร็วเกินไป แม้เหตุการณ์ปล้นเครื่องบินของอียิปต์จะคลี่คลายลงแล้วก็ตาม
"ข้อมูลที่เราได้รับรายงานมานั้นยังคงมีความขัดแย้งกันอย่างมาก ดังนั้นการด่วนให้ข้อสรุปใดๆ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการอนุญาตให้สายการบินเดินทางสู่ประเทศอียิปต์ได้ตามปกตินั้น ดูจะเป็นเรื่องไม่ถูกต้องนัก ควรจะรอจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายมากกว่านี้จะดีกว่า" นายดมิทรี แจกแจง พร้อมเน้นย้ำว่าความปลอดภัยของประชาชนชาวรัสเซียถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก
ด้านสหภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของรัสเซียก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลต่อให้การเปิดบริการเที่ยวบินไปยังประเทศอียิปต์ต้องเลื่อนออกไปก่อน
สำนักข่าว Tass รายงานคำกล่าวของนางอิริน่า ตียูรีน่า โฆษกสหภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของรัสเซียว่า "เราสันนิษฐานได้เพียงว่าเที่ยวบินตรงสู่อียิปต์จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในอนาคต ทว่าคงต้องเลื่อนออกไปก่อน ณ ขณะนี้"
ทั้งนี้ เครื่องบินของสายการบินอียิปต์แอร์ซึ่งมุ่งหน้าจากเมืองอเล็กซานเดรียที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไปยังกรุงไคโรเมืองหลวง พร้อมผู้โดยสาร 56 ราย และลูกเรืออีก 8 รายถูกปล้น และลงจอดที่ไซปรัส โดยตัวประกันส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัว ก่อนที่คนร้ายจะถูกจับกุม
นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย สั่งอพยพนักท่องเที่ยวและระงับเที่ยวบินทั้งหมดของรัสเซียที่บินสู่ประเทศอียิปต์มาตั้งแต่เหตุการณ์เครื่องบินแอร์บัส A321 ของรัสเซียตกเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2558 หลังเดินทางออกจากเมืองชาร์ม เอล-ชีค สถานที่ตากอากาศแถบทะเลแดงของอียีปต์ได้ไม่นาน ส่งผลให้ผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซียทั้งหมด 224 รายเสียชีวิต