นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยว่า ฝ่ายที่สนับสนุนอังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) นั้นมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนเลือกที่จะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ทั้งในเรื่องของกระแสต่อต้านการอพยพ และบางประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้น
ประเด็นที่ว่านี้ได้แก่การที่ตุรกีจะเข้ามาเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป การจัดตั้งกองทัพยุโรป ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปที่ฝ่ายสนับสนุน Brexit อ้างว่าสูงถึง 350 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ โดยผู้นำอังกฤษชี้แจงว่า ประเด็นดังกล่าวล้วนไม่เป็นความจริง
นายคาเมรอน ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า หากประชาชนเลือกที่จะออกจากสหภาพยุโรปแล้วก็จะก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอังกฤษเรื่องการลงประชามติ Brexit ล่าสุดเผยให้เห็นว่า ฝ่ายสนับสนุนให้สหราชอาณาจักรเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไปนั้น มีคะแนนนำอยู่เล็กน้อย ก่อนที่การลงประชามติจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
ยูกอฟ (YouGov) เผยสาเหตุที่ทำให้คะแนนของฝ่ายสนับสนุนดีดตัวกลับขึ้นมานั้น เป็นเพราะความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ มากกว่าจะเป็นเพราะเหตุการณ์ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงจากพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษถูกมือปืนสังหาร ขณะที่เธอรณรงค์สนับสนุนให้อังกฤษอยู่ในอียูต่อไป
โพลล์ดังกล่าวมีขึ้นก่อนหน้าที่การลงประชามติจะเปิดฉากในวันพฤหัสบดีนี้ และมีขึ้นหลังการฆาตกรรม โจ ค็อกซ์ ส.ส.พรรคแรงงาน ซึ่งสนับสนุนไม่ให้สหราชอาณาจักรแยกตัวจากสหภาพยุโรป