ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มมองว่า การเสียชีวิตของนางโจ ค็อกซ์ หนึ่งในสมาชิกรัฐสภาผู้สนับสนุนให้อังกฤษยังเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปซึ่งถูกคนร้ายบุกเข้ายิงและแทงจนเสียชีวิตก่อนการลงประชามติในวันที่ 23 มิ.ย.นั้น เป็นปัจจัยกระตุ้นให้ชาวอังกฤษเลือกที่จะสนับสนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป
Betfair ซึ่งเป็นบริษัทรับพนันอย่างถูกกฎหมายในอังกฤษ ให้คะแนนต่อรองความเป็นไปได้ที่ชาวอังกฤษจะลงประชามติให้อยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 67% จากเดิมที่ 65%
ขณะที่ ยูโซะ ซาไก ผู้จัดการของ Tokyo Forex & Ueda Harlow ระบุว่า มีการคาดการณ์กันว่า จะมีคะแนนเสียงที่เกิดจากความสงสารไหลเข้าสู่กลุ่มที่ต้องการอยู่กับสหภาพยุโรปต่อไป
ทั้งนี้ โจ ค็อกซ์ สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านจากพรรคแรงงานและเป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไปนั้น ถูกคนร้ายบุกยิงและกระหน่ำแทงระหว่างเตรียมพบปะกับเหล่าผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในเขตบรีสตอลล์ เมืองลีดส์ทางตอนเหนือของอังกฤษ
ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถรู้ได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการลงประชามติอย่างไร แต่นักวิเคราะห์ได้ออกมาคาดการณ์ว่าการเสียชีวิตของโจ ค็อกซ์จะทำให้ผู้คนหันมาโหวตให้อังกฤษยังคงเป็นสมาชิกในสหภาพยุโรปมากขึ้น หลังจากผลสำรวจเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาชี้ว่า เสียงสนับสนุนให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปมีจำนวนมากกว่า
โดยผลสำรวจล่าสุดของอิปซอส โมริ (Ipsos-MORI) ระบุว่า เสียงสนับสนุนให้อังกฤษออกจากสหภาพยุดรปนั้นสูงกว่าฝั่งตรงข้ามอยู่ 6 จุด แม้จะมีการณรงค์อย่างหนักหน่วงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาจากฝ่ายที่ต้องการให้อังกฤษอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไปก็ตาม
ในช่วงก่อนที่ประชาชนจำนวนกว่า 43 ล้านคนจะเข้าร่วมการลงประชามติว่าต้องการให้อังกฤษอยู่หรือออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 28 ประเทศ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นตัวแปรที่ทำให้ผู้คนนับล้านที่ยังไม่ได้ตัดสินใจหันมาสนับสนุนให้อังกฤษยังเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไป
เมื่อไม่นานมานี้ บรรดาผู้นำจาก 10 เมืองที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรซึ่งรวมถึงกลุ่มนครหลักได้แก่เบอร์มิงแฮม เมืองระดับท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษ กลาสโกว์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และกรุงคาร์ดิฟฟ์ เมืองหลวงของเวลส์ ได้รวมตัวกันเพื่อย้ำเตือนถึงความเสียหายรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นต่อธุรกิจในระดับท้องถิ่นจำนวนมากหากอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ เมืองต่างๆ ในอังกฤษต่างได้รับอานิสงส์จากเงินสนับสนุนผ่านกองทุนเพื่อการพัฒนายุโรประดับภูมิภาค ที่ส่งตรงจากเบลเยียม ศูนย์กลางของสหภาพยุโรป
ด้วยเหตุนี้ ผู้นำจาก 10 เมืองที่ใหญ่ที่สุดจึงได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่า "การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น และก่อให้เกิดความไม่มั่นคงในด้านอาชีพและความเป็นอยู่ หากการลงประชามติครั้งนี้ทำให้เราต้องออกจากสหภาพยุโรปแล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือชันชั้นทำงาน ไม่ใช่ผู้นำที่สนับสนุนให้ถอนตัว ดังนั้นการออกจากสหภาพยุโรปจึงทำให้เศรษฐฏิจต้องตกอยู่ในสภาวะอันตราย และเราไม่ควรต้องเสี่ยงเช่นนั้น"
นอกจากนี้ บรรดาผู้นำจาก 10 เมืองใหญ่ยังได้เสริมว่า การเป็นสมาชิกในสหภาพยุโรปได้สร้างงานให้ผู้คนราว 63,000 ตำแหน่งและรักษาความมั่นในการงานอีกกว่า 16,800 ตำแหน่งใน 10 เมือง อีกทั้งผลักดันการลงทุนกว่า 2.54 พันล้านดอลลาร์ที่ช่วยให้เศรษฐกิจในเมืองเติบโตมากขึ้น
ทั้งนี้ การรณรงค์ดังกล่าวเน้นไปที่กลุ่มแรงงานดั้งเดิมทางตอนเหนือของอังกฤษซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ต่างสนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป
แม้กระทั่ง เจเรมี คอร์บิน จากพรรคแรงงานที่ได้ไปเยือนพื้นที่ดังกล่าวยังกล่าวว่า "ผู้สนับพรรคแรงงานหลายคนที่สนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปนั้น ยังไม่ทราบถึงประโยชน์ที่ตนเองได้รับจากการเป็นสมาชิก"
การโหวตให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปยังหมายถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อตลาดโลกอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารแห่งอังกฤษของคณะกรรมการนโยบายการเงินได้ออกมาย้ำเตือนหลายครั้ง
โดยธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า การออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของภาคการผลิตและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้นโยบายการเงินที่วางไว้นั้นได้รับผลกระทบไปด้วย