นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันซึ่งจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.นี้ กล่าวว่า สหรัฐไม่มีสิทธิที่จะสั่งสอนประเทศอื่นๆ หากสหรัฐเองยังคงเผชิญกับสถานการณ์วุ่นวายภายในประเทศ
นายทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์แก่นิวยอร์ก ไทม์ส ก่อนที่จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในฐานะตัวแทนพรรครีพับลิกัน ณ ที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน (RNC) ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอว่า สหรัฐจะต้องแก้ไขความวุ่นวายภายในประเทศตนเองก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประเทศอื่น
"ผมคิดว่า เราไม่มีมีสิทธิไปสั่งสอนประเทศอื่น" นายทรัมป์กล่าว "เราจะไปสั่งสอนคนอื่นได้อย่างไร ในเมื่อประชาชนของเรายังสามารถยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างเลือดเย็น?"
ในกรณีนี้ นายทรัมป์ได้อ้างถึงเหตุกราดยิงครั้งล่าสุด 2 ครั้งโดยมือปืนผิวสี 2 ราย ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตทั้งสิ้น 8 นาย และบาดเจ็บอีกราวสิบกว่านาย ซึ่งเป็นการแก้แค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐหลุยส์เซียนาและมินเนโซตาที่เคยสังหารประชาชนผิวสี 2 ราย ซึ่งทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงขึ้นทั่วประเทศ อีกทั้งยังทำให้สถานการณ์เกี่ยวกับการเหยียดสีผิวทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
นายทรัมป์กล่าวว่า ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกควรเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับนโยบายต่างประเทศชุดใหม่ของตน เนื่องจากนโยบายดังกล่าวจะมีความแตกต่างจากลักษณะนโยบายเดิม ๆ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
นอกจากนี้ นายทรัมป์กล่าวว่า เขาอาจจะยังสนับสนุนข้อตกลงชุดเก่าเฉพาะในกรณีที่ประเทศพันธมิตรจะหยุดเอาเปรียบสหรัฐที่ต้องเป็นผู้ให้อยู่เสมอ ซึ่งในขณะนี้สหรัฐไม่สามารถให้ความช่วยเหลือลักษณะนั้นได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ สื่อได้ตั้งคำถามแก่นายทรัมป์ในกรณีที่ว่า จะยืนยันการให้การสนับสนุนด้านความมั่นคงแก่พันธมิตรกลุ่ม NATO ต่อไปหรือไม่ หากนายทรัมป์ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ
เมื่อมีการถามถึงการช่วยเหลือรัฐในเขตบัลติกซึ่งเป็นสมาชิก NATO ในกรณีที่ถูกรัสเซียโจมตีนั้น นายทรัมป์กล่าวว่า เขาจะต้องพิจารณาก่อนว่าประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือเหล่านั้นได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สหรัฐเรียกร้องหรือไม่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน