Analysis: ชาวเดโมแครตยังพร้อมใจโค่น "ทรัมป์" แม้เผชิญมรสุมอีเมลพรรคถูกแฮค

ข่าวการเมือง Wednesday July 27, 2016 15:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ในการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตที่เปิดฉากไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พรรคต้องเผชิญศึกหนักอีกครั้งหลังเกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับอีเมลรั่วไหลของพรรค ที่มีเนื้อหาสนับสนุนนางฮิลลารี คลินตัน ให้ได้รับชนะการหยั่งเสียงขั้นต้น และกีดกันผู้สมัครของพรรคคนอื่นๆอย่างเบอร์นี่ แซนเดอร์ส

ทั้งนี้ ประเด็นอื้อฉาวดังกล่าวได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สนับสนุนนายแซนเดอร์สที่มีการชุมนุมประท้วงนอกสถานที่จัดการประชุมของพรรค โดยกลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้มองว่าพรรคเดโมแครตขาดความเป็นกลาง จนทำให้นางฮิลลารีสามารถคว้าตำแหน่งตัวแทนพรรคอย่างไม่เป็นธรรม

นอกจากนี่ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน.จากพรรครีพับลิกัน ยังได้ใช้โอกาสนี้ตอกย้ำวลี "ฮิลลารีขี้โกง" ซึ่งเขามักใช้อยู่ประจำในการโจมตีนางฮิลลารีระหว่างการหาเสียงอีกด้วย

ดาร์เรลล์ เวสต์ รองประธานและผู้อำนวยการประจำภาควิชาการปกครอง สถาบันบรูกกิงส์ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้ผู้คนมองว่าแซนเดอร์สถูกความอยุติธรรมของระบบรังแก และเปิดช่องว่างให้คู่แข่งของนางฮิลลารีโจมตีเธอและพรรคเดโมแครตได้

ด้านจูเลียน เซลิเซอร์ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์และกิจการสาธารณะ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน กล่าวกับซินหัวในทิศทางเดียวกันว่า การกระทำของพรรคเดโมแครตจะส่งผลให้ผู้สนับสนุนนายแซนเดอร์สลุกขึ้นต่อต้านกระบวนการรับรองตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน.ของพรรค และสะท้อนคำพูดของทรัมป์ที่กล่าวว่า นางฮิลลารีเป็นบุคคลที่ไม่ยอมทำตามกติกา

อย่างไรก็ตาม ด้วยความรวดเร็วของข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่ทำให้ประเด็นเก่าถูกแทนที่ด้วยประเด็นใหม่ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน นักวิเคราะห์จึงมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะอยู่ในความสนใจเพียงไม่นานก่อนที่ผู้คนจะหันกลับไปให้ความสำคัญกับการเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์อีกครั้ง หลังจากได้รับฟังสมาชิกคนอื่นๆของพรรคขึ้นพูด

เซลิเซอร์กล่าวว่า นางฮิลลารียังคงสามารถประสบความสำเร็จในการประชุมครั้งนี้ได้ ผนวกกับการที่วงจรข่าวในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในแต่ละวัน จึงมีความเป็นไปได้ที่ผู้คนจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปยังประเด็นอื่นๆได้ในอีกไม่ช้า

เช่นเดียวกับเวสต์ที่มองว่า ถึงแม้ช่วงการเปิดประชุมพรรคจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ผู้คนจะกลับไปสนใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่สร้างความแตกแยกของทรัมป์ในที่อีกไม่ช้า เช่นการเปรียบเทียบชาวแม็กซิกันว่าเป็นพวกนักข่มขืน หรือการกีดกันชาวมุสลิมไม่ให้เข้ามายังสหรัฐ

นอกจากนี้ เวสต์ยังกล่าวว่า พรรคเดโมแครตยังมีแผนเปิดโปงความล้มเหลวในธุรกิจของทรัมป์และผลกระทบที่ชาวอเมริกันทั่วไปได้รับ นโยบายของทรัมที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงทั้งต่อสหรัฐและประเทศทั่วโลก พฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เกินกว่าจะสามารถดำรงตำแหน่งปธน. รวมถึงการหลีกเลี่ยงการให้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับนโยบายของตนเองเมื่อถูกถามโดนสื่อมวลชล

ทั้งหมดนี้ถือเป็นสาระสำคัญของสิ่งที่พรรคเดโมแครตจะนำมาพูดในการประชุมใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนหันมามีจุดยืนร่วมกันอีกครั้งในการเอาชนะทรัมป์ที่ถูกมองว่าเป็นบุคคลอันตรายเกินกว่าจะครองเก้าอี้ปธน.ในทำเนียบขาว

การประชุมใหญ่ครั้งนี้จึงนับเป็นเวทีสำคัญของนางฮิลลารีในการกู้คะแนนความนิยมกลับมาให้แซงหน้าทรัมป์อีกครั้ง ภายหลังที่ผลสำรวจต่างๆระบุว่า นางฮิลลาลีเริ่มมีคะแนนตามหลังมหาเศรษฐีรายนี้แล้ว

ผลสำรวจของ Real Clear Politics ระบุว่า คะแนนนิยมในตัวทรัมป์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น แซงหน้าคะแนนนิยมของนางฮิลลารีไปแล้วโดยเฉลี่ย 0.2 จุด ในขณะที่ผลสำรวจทางโทรศัพท์ของ CNN/ORC ในช่วงวันที่ 22-24 ก.ค.ระบุว่าความนิยมของทรัมป์พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 44% ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่ปี 2543 ในขณะที่ความนิยมของฮิลลารีนั้นอยู่ที่ 39% เท่านั้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ