กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า ข้อกล่าวหาที่ตีพิมพ์ในสื่อตุรกีว่า สถาบันวิลสัน เซ็นเตอร์ อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหารที่ล้มเหลวในตุรกีเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด
"ฉันคิดว่าการผูกเข้ากับทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด และวาทศาสตร์กระตุ้นความเกลียดชัง เป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์อย่างสิ้นเชิง" นางอลิซาเบธ ทรูโด โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในการสรุแถลงข่าวต่อตามปกติต่อสื่อมวลชน "เราไม่ได้อะไรจากทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดเลย"
การทำรัฐประหารที่ล้มเหลวในตุรกีเมื่อเดือนที่แล้วทำให้ประชาชนมากกว่า 200 รายเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ถูกจับกุมไปมากกว่า 18,000 นาย
หนังสือพิมพ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลตุรกีได้เชื่อมโยงเหตุการณ์นี้เข้ากับกลุ่มนักวิชาการที่เข้าร่วมการประชุมที่จัดขึ้นโดยสถาบันวิลสัน เซ็นเตอร์ ในเกาะบูยูกาดา ใกล้กับกรุงอิสตันบลูในช่วงที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร
ขณะที่นายฮาเรห์ อัสฟานดิยารี นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวูดโรว์ วิลสัน เขียนลงในบทความบนหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลฉบับวันอังคารที่ผ่านมาว่า "ไม่มีความลับหรือการมุ่งร้ายใดๆเกี่ยวข้องกับการประชุมของผู้เชี่ยวชาญชาวอิหร่าน ตุรกี และตะวันออกกลาง"
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตุรกีได้กล่าวหาว่า นายเฟตฮุลเลาะห์ กูเลน นักการศาสนาชาวตุรกีซึ่งลี้ภัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความพยายามในการทำรัฐประหารในตุรกีโดยร่วมมือกับกลุ่มผู้สนับสนุนภายในกองทัพ
เมื่อเร็วๆนี้ศาลอิสตันบลูได้ออกหมายจับนายกูเลน ในฐานะผู้ต้องสงสัยในการพยายามทำรัฐประหาร และตุรกีได้ส่งหนังสือขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงาน