นายกรัฐมนตรี ดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย ออกมากล่าวในวันนี้ว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน อาจจะตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับยูเครน หากไม่มีทางเลือกอื่น ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศที่ทวีความรุนแรงขึ้น
"ผมไม่ต้องการให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น แต่หากไม่มีทางเลือกอื่น ท่านประธานาธิบดีก็อาจตัดสินใจดังกล่าวได้" สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานอ้างคำกล่าวของนายกฯ รัสเซีย
ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง หลังจากจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้ออกมากล่าวเมื่อวันพุธว่า ยูเครนพยายามโจมตีคาบสมุครไครเมีย นอกจากนี้ ปูตินยังให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับพลเมืองและสาธารณูปโภคพื้นฐานในไครเมีย
โดยก่อนหน้านี้ สำนักงานความมั่นคงแห่งรัสเซีย (FSB) รายงานว่า FSB ได้ปกป้องคาบสมุทรไครเมียจากการก่อการร้าย
ด้านประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชงโก ของยูเครน ได้ออกมาโต้ว่า "การที่รัสเซียกล่าวหายูเครนในประเด็นการก่อการร้ายบริเวณคาบสมุทรไครเมียเป็นเรื่องไร้สาระและเป็นการดูหมิ่น" ทั้งยังมีคำสั่งให้ทหารทุกหน่วยตามแนวชายแดนที่ติดกับไครเมีย และในดอนบาสส์ เตรียมความพร้อมสูงสุดสำหรับการสู้รบที่อาจเกิดขึ้น หลังจากที่ได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียกำลังพยายามที่จะเพิ่มความขัดแย้งเกี่ยวกับประเด็นคาบสมุทร
ทั้งนี้ คาบสมุครไครเมียที่เคยเป็นอาณาเขตของยูเครน ได้ถูกรวมเข้ากับรัสเซียเมื่อปี 2557 หลังการลงประชามติที่รัสเซียยอมรับ แต่ยูเครนและประเทศตะวันตกปฏิเสธ