นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวแสดงความเห็นว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ควรรีบเร่งในการตัดสินใจหลังจากสหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป
นางแมร์เคิลแสดงความเห็นดังกล่าวในระหว่างการเดินทางเยือนเอสโทเนียเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนประเทศสมาชิกอียู เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปที่ไม่มีสหราชอาณาจักรเข้าร่วมเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ขณะเข้าร่วมการแถลงข่าวหลังจากการพบปะกับนายทาวี รอยวาส นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย นางแมร์เคิลได้ย้ำถึงความจริงที่ว่า อียูจำเป็นต้องกำหนดทิศทางใหม่หลังจาก Brexit
"ประเทศสมาชิกต้องมีเวลาหารือกันในประเด็นสำคัญ และก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดที่บราติสลาวา อนาคตของยุโรปต้องถูกอภิปรายร่วมกันระหว่างสมาชิกทุกประเทศ" นางแมร์เคิลกล่าว
นางแมร์เคิล กล่าวว่า "นี่เป็นเวลาที่เราจะต้องฟัง ทำความเข้าใจ และเรียนรู้ สมาชิกคนอื่นๆ เพื่อที่จะพัฒนาและค้นหาความสมดุลใหม่ให้กับสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ"
"หากการที่สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้ทำให้จีดีพีของอียูโตขึ้น 15% ออกจากการเป็นสมาชิกอียู หมายถึงการจากไปของสมาชิกคนสำคัญ และเราต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตั้งแต่เริ่มต้น และค่อยๆสร้างสมาชิกอียูซึ่งมีสมาชิก 27 ประเทศขึ้นมาอีกครั้ง" นางแมร์เคิลกล่าว
ในส่วนของประเด็นเรื่องวิกฤติผู้ลี้ภัยที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นางแมร์เคิลย้ำมุมมองที่ยืนหยัดมาตั้งแต่ต้นว่า ประเทศในยุโรปต้องร่วมมือกัน แต่อันดับแรกและสิ่งสำคัญที่สุดคือการต่อสู้กับสาเหตุที่เป็นรากฐานของปัญหา
"เราต้องต่อสู้กับรากเหง้าของปัญหาผู้ลี้ภัย การค้ามนุษย์ และ อาชญากรรม" นางแมร์เคิลกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน