รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจเพิ่มบุคลากรด้านหน่วยข่าวกรองให้มากขึ้นเป็น 2 เท่า โดยพุ่งเป้าไปที่การเฝ้าระวังและป้องกันการก่อการร้าย ในการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้เพิ่มบุคคลากรในหน่วยข่าวกรองซึ่งอยู่ภายใต้การควบคมของสำนักนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ จาก 40 คน เป็น 80 คน
โฆษกระดับสูวของรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดเนื่องมาจากเหตุการณ์โจมตีร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงธากา ของบังคลาเทศ ซึ่งทำให้ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต 7 ราย เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
"หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล คือการป้องกันการโจมตีจากผู้ก่อการรร้ายล่วงหน้า และรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ดังนั้นการรวบรวมข้อมูลจึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด" นายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน