ฝ่านรณรงค์หาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน และนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ต่างโจมตีนโยบายของฝ่ายตรงข้าม หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐ
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8%
นายเดวิด มัลพาส ที่ปรีกษาการรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า "ตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค.แสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะงักงันของรัฐบาลคลินตัน-โอบามา ไม่สามารถสร้างงานให้แก่ชาวอเมริกันที่กำลังมีความต้องการอย่างมากได้"
นายมัลพาสตั้งข้อสังเกตถึงการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานในภาคเอกชนเพียง 126,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และการลดลงของการจ้างงานในภาคการผลิต ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินนโยบายการค้าที่ผิดพลาด
ทางด้านนายเจคอบ ไลเบนลุฟท์ ที่ปรึกษานโยบายของนางคลินตัน กล่าวตอบโต้ว่า นโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์จะยิ่งทำให้ตัวเลขจ้างงานตกต่ำมากกว่านี้ หากเขาขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ
"ผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องกันว่านโยบายของนายทรัมป์จะทำให้เรากลับเข้าสู่ภาวะถดถอย และการจ้างงานลดลงหลายล้านตำแหน่ง" เขากล่าว
แถลงการณ์ของนายไลเบนลุฟท์ยังได้ชูการขยายตัวของการจ้างงานในสมัยของรัฐบาลโอบามานับตั้งแต่ที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ ขณะที่อัตราว่างงานลดลงถึงครึ่งหนึ่งจากระดับในช่วงทศวรรษ 2010