บรรดานักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้ากว่าหลายร้อยคนได้ออกหนังสือเตือน หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่าหากตนได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแล้ว ก็จะเดินหน้าสนับสนุนให้สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่มีการเห็นพ้องกันในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 21 หรือ COP21 ที่กรุงปารีส
หนังสือดังกล่าว ซึ่งได้รับการลงนามโดยสมาชิกสถาบันวิทยาการแห่งชาติสหรัฐทั้งสิ้น 375 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าของรางวัลโนเบล 30 ราย ตลอดจนนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้า เช่น สตีเฟน ฮอว์คิง ระบุว่า "การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอันเป็นผลจากน้ำมือมนุษย์นั้นไม่ได้เป็นแค่ความเชื่อ เรื่องหลอกลวง หรือแผนการสมรู้ร่วมคิด แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง"
นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า หากสหรัฐถอนตัวแล้วจะเป็นการ "ส่งสัญญาณอย่างชัดแจ้งต่อคนทั้งโลกว่า สหรัฐอเมริกาไม่ให้ความสำคัญในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอันเป็นผลจากมนุษย์ที่กำลังเป็นปัญหาระดับโลก"
นอกจากนี้ การถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและยืดเยื้อต่อสภาพภูมิอากาศของโลก รวมถึงความน่าเชื่อถือของสหรัฐในระดับโลกด้วย
หนังสือดังกล่าวระบุว่า "สหรัฐอเมริกาสามารถเป็นและควรต้องเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมแก้ไขปัญหา เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก"
"การเดินหนีจากข้อตกลงปารีสจะทำให้สหรัฐไม่มีบทบาทผู้นำโลก ทั้งในแง่การเมือง เศรษฐกิจ หรือศีลธรรม เราไม่สามารถปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ได้"
ทั้งนี้ นายทรัมป์เคยประกาศไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศนั้นเป็นเรื่อง "หลอกลวง" ทั้งยังมองว่าข้อตกลงปารีส "ไม่เป็นผลดีต่อธุรกิจสหรัฐ"
นายทรัมป์ กล่าวเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า "เราจะยกเลิกข้อตกลงปารีส และยุติการโอนเงินจากภาษีของชาวสหรัฐทั้งหมดให้กับโครงการโลกร้อนของสหประชาชาติ" สำนักข่าวซินหัวรายงาน