นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน และนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ ในระหว่างการเข้าพบปะหารือกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล การที่การโต้วาทีครั้งแรกระหว่างทรัมป์และฮิลลารีจะมีขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
ทั้งนี้ นายทรัมป์ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนของอิสราเอล ซึ่งเขามักจะหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาเป็นตัวอย่างอยู่บ่อยครั้งในระหว่างการปราศรัยเรื่องนโยบายกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก เพื่อป้องกันผู้อพยพผิดกฎหมายแอบลักลอบเข้ามาในประเทศ
นายทรัมป์เห็นพ้องกับนายกัฐมนตรีเนทันยาฮูว่า ประชาชนชาวอิสราเอลต้องการเพียงความสงบเท่านั้น แต่ความสงบจะมีขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อชาวปาเลสไตน์ยอมละทิ้งความเกลียดชังและยุติการใช้ความรุนแรง โดยนายทรัมป์ตระหนักดีกว่า ชาวอิสราเอลได้ทนทุกข์ทรมานจากภัยคุกคามจากชาวปาเลสไตน์มาเป็นเวลานาน
รายงานระบุว่า หลังจากที่นายทรัมป์เสร็จสิ้นการพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูได้ไม่ถึงช่วโมง นางฮิลลารีก็ได้เข้าพบปะกับนายเนทันยาฮูเช่นกัน โดยการหารือกันมีขึ้นที่เมืองแมนฮัทตัน
ทั้งนี้ นางฮิลลารีได้เน้นย้ำกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูว่า ความมั่นคงและปลอดภัยของอิสราเอลนั้น มีความสำคัญต่อสหรัฐ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและสหรัฐจะไม่สั่นคลอน นอกจากนี้ นางฮิลลารียังระบุว่า เธอได้ให้การสนับสนุนอิสราเอลมาเป็นเวลา 10 ปี รวมถึงการที่เธอสนับสนุนในข้อตกลงความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับอิสราเอล
การเข้าพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอลของสองผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ มีขึ้นเพื่อเป็นการแสดงถึงองค์ความรู้ด้านนโยบายต่างประเทศก่อนการโต้วาทีรอบแรกจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
ในช่วงที่ผ่านมานั้น นางฮิลลารีมักจะกล่าวหานายทรัมป์ว่าไม่มีความรู้เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศดีพอ ในขณะที่ทรัมป์โต้กลับว่า เขามีความรู้ในด้านนโยบายต่างประเทศอย่างลึกซึ้งจากการเป็นนักธุรกิจ รวมถึงตำหนินางฮิลลารีเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ล้มเหลวหลายครั้ง ในระหว่างการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ