เลือกตั้งสหรัฐ 2016: ทั่วโลกนับถอยหลังศึกดีเบต "ฮิลลารี" VS "ทรัมป์" พรุ่งนี้เช้า 08.00 น.

ข่าวการเมือง Monday September 26, 2016 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ชาวอเมริกันกว่า 100 ล้านคน รวมทั้งผู้คนจากประเทศต่างๆทั่วโลกกำลังจับตาศึกดีเบตระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ในวันนี้ ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่อาจชี้ชะตาผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้

การโต้อภิปรายดังกล่าวจะมีขึ้นในวันนี้ที่มหาวิทยาลัยฮอฟสตรา รัฐนิวยอร์ก ณ เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลา Prime Time ในสหรัฐ หรือพรุ่งนี้เช้าเวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย โดยจะใช้เวลา 90 นาที และจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ผ่านเครือข่ายยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ รวมทั้งช่อง CNN และ BBC ไปยังผู้ชมทั่วโลก ขณะที่สถานีโทรทัศน์บางช่องของไทยก็จะมีการถ่ายทอดสดเช่นกัน

และจากการที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ทำให้ผู้ชมทางบ้านทำการตัดสินผลการแพ้ชนะด้วยการดูภาษากายของผู้สมัครทั้ง 2 นอกเหนือจากเนื้อหาที่ทั้ง 2 ฝ่ายกล่าวบนเวที

นางฮิลลารีถือเป็นนักโต้วาทีตัวยง โดยได้ผ่านการดีเบตมาแล้วเกือบ 40 ครั้ง นับตั้งแต่ที่เธอได้ทำการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกในรัฐนิวยอร์กเมื่อ 16 ปีก่อน และขณะนี้ก็กำลังเตรียมซ้อมการโต้อภิปรายสำหรับศึกดีเบตนี้ โดยมีการจำลองเหตุการณ์จริง ซึ่งมีการให้นายฟิลิป ไรน์ ซึ่งเป็นคนสนิท มารับบทเป็นนายทรัมป์ โดยนางฮิลลารีเตรียมรับมือการโจมตีของนายทรัมป์ในด้านต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องราวอื้อฉาวทางเพศของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ซึ่งเป็นสามีของนางฮิลลารี ซึ่งเกือบส่งผลกระทบต่อชีวิตคู่ของทั้ง 2 ในขณะนั้น

ขณะเดียวกัน นางฮิลลารีก็จะพยายามยั่วโทสะนายทรัมป์ เพราะรู้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาฟิวส์ขาด ก็จะกลายเป็นคนพูดจาโผงผางโดยไม่คิด ซึ่งจะทำให้ภาพพจน์ติดลบในสายตาชาวสหรัฐ

นอกจากนี้ นางฮิลลารีจำเป็นต้องแสดงให้ชาวสหรัฐเชื่อมั่นในสุขภาพของตน หลังจากที่มีอาการป่วยจากโรคปอดบวม

นายแดเนียล คลิฟตัน หัวหน้าสถาบันวิจัยสเตรทแกส กล่าวว่า "หุ้นมักจะขึ้น หากพรรคการเมืองที่กำลังเป็นรัฐบาลในขณะนั้นโต้วาทีชนะ ซึ่งถ้าฮิลลารีสามารถปิดปากทรัมป์ในการดีเบตครั้งนี้ เราจะเห็นว่าดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นอย่างมาก แต่ถ้าทรัมป์ชนะการดีเบต นักลงทุนก็จะเทขายหุ้นในตลาด เนื่องจากทรัมป์เป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้"

นายคลิฟตันระบุว่า หากนางฮิลลารีโต้วาทีชนะ หุ้นส่วนใหญ่ในตลาดจะปรับตัวขึ้น รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน และกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน แต่ถ้านายทรัมป์ชนะ หุ้นส่วนใหญ่จะร่วงลง ยกเว้นกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ, บริษัทผลิตอาวุธ, กลุ่มน้ำมันและก๊าซ รวมทั้งกลุ่มธนาคาร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ