ในระหว่างการโต้วาทีรอบแคนดิเดตชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ เอเลน ควิจาโน ผู้ประกาศข่าวของ CBSN และผู้สื่อข่าวจาก CBS News ซึ่งทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการในวันนี้ ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายผู้อพยพ ซึ่งนายทิม เคน ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตกล่าวถึงนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพว่า ตนเองและนางฮิลลารี คลินตัน ให้การสนับสนุนเรื่องการปฏิรูปการเข้าเมืองของผู้อพยพ ในขณะที่ไมค์ เพนซ์ และโดนัลด์ ทรัมป์ สนับสนุนให้มีการผลักดันผู้อพยพออกนอกประเทศ
นอกจากนี้ เคน กล่าวตอบคำถามเกี่ยวกับวิกฤตในประเทศซีเรียและสถานการณ์ด้านมนุษยชนในเมืองอเลปโปว่า ที่ผ่านมา ทรัมป์พูดให้ท้ายนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียมาโดยตลอด
"หากคุณไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างการเป็นเผด็จการกับการเป็นผู้นำ คุณจำเป็นต้องย้อนกลับไปเป็นเข้าเรียนวิชาหน้าที่ของพลเมืองตอนป.5 อีกครั้ง" เคน กล่าว
เคน กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเหตุการณ์ 9/11 นั้น บ้านเกิดของฮิลลารี คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างถูกโจมตี คนหนุ่มสาวทั้งชายและหญิงต่างลงชื่อขอเป็นทหารเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย ในขณะที่ทรัมป์สู้ด้วยวิธีการที่แตกต่างเป็นอย่างดี เขาสู้ด้วยการเลี่ยงภาษี ซึ่งก็เท่ากับว่า ทรัมป์ไม่ได้ให้การสนับสนุนกองทัพของเราแต่อย่างใด
ภายหลังจากที่เคนกลับมาโจมตีทรัมป์ในประเด็นที่ไม่ใช่ประเด็นผู้อพยพนั้น ผู้ดำเนินรายการจึงพยายามดึงการดีเบตให้กลับมาอยู่ที่ประเด็นเรื่องวิกฤตในซีเรีย ซึ่งเคน กล่าวว่า ตนเองสนับสนุนด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย
ด้านนายไมค์ เพนซ์ ได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลของนายบารัค โอบามา ที่ได้สังหารนายโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้าเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ แต่การดำเนินการดังกล่าวได้เป็นเหตุให้กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ถือกำเนิดขึ้น โดยสหรัฐอเมริกาทุกวันนี้ปลอดภัยน้อยกว่าสมัยก่อนที่นายบารัค โอบามา ขึ้นเป็นประธานาธิบดี
ในส่วนของประเด็นผู้อพยพ ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกวิจารณ์เรื่อยมาว่าอยากทำให้สหรัฐเป็นประเทศผู้นำด้าน "การเนรเทศ" นั้น นายเพนซ์ ได้กล่าวปกป้องว่า นายทรัมป์เพียงแค่เสนอให้มีการส่งตัวผู้ที่ลักลอบเข้าสหรัฐอย่าง "ผิดกฎหมาย" กลับไปยังประเทศของตน ไม่ได้ต้องการส่งตัวกลับทุกคนจนเป็นข้อครหาว่านายทรัมป์นั้นเหยียดเชื้อชาติแต่อย่างใด
นายเพนซ์ ได้ให้คำมั่นว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีความตั้งใจที่จะกำจัดคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายให้หมดไป พร้อมทั้งยกระดับกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองด้วย โดยเน้นที่การกวดขันชายแดนและการส่งตัวผู้ที่อยู่เกินระยะวีซ่ากลับเข้าประเทศ
นายเพนซ์ เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีความตั้งใจที่จะยกระดับกองทัพสหรัฐ และทำให้สหรัฐมีความแข็งแกร่งในการปกป้องไม่ให้เกิดสงครามในซีเรีย อย่างไรก็ดีเขาได้กล่าววิจารณ์รัสเซียในทางอ้อมๆว่าเป็นผู้นำที่คอยข่มเหงรังแกผู้อื่น ซึ่งนับเป็นมุมมองที่แตกต่างจากนายทรัมป์ที่สนับสนุนตัวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย
ทั้งนี้ นายเพนซ์ ทิ้งท้ายไว้ว่า ตัวเขาและนายทรัมป์มีแผนนำความสันติกลับมาด้วยความแข็งแกร่ง เช่น ด้วยนโยบายต่างประเทศ