สำหรับประเด็นที่ได้มีการถกเถียงกันในระหว่างการโต้วาทีรอบแคนดิเดตรองประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ นายไมค์ เพนซ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันได้กล่าวโจมตีประเด็นมูลนิธิคลินตัน โดยกล่าวหาว่า มีการนำเงินบริจาคจากต่างประเทศไปใช้ และที่ผ่านมาสื่อก็ได้สืบสาวเกี่ยวกับการประชุมระหว่างนางฮิลลารีกับกลุ่มผู้บริจาคเงินให้กับมูลนิธิในช่วงที่นางฮิลลารีดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ
นายทิม เคน ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ได้กล่าวถึงมูลนิธิคลินตัน ซึ่งตกเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์อย่างหนาหูเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเงินบริจาคจำนวนมหาศาล รวมทั้งการใช้เงินบริจาคให้กับมูลนิธิดังกล่าวว่า มูลนิธิคลินตันเป็นหนึ่งมูลนิธิด้านการกุศลที่ติดอันดับสูงสุดในโลก ซึ่งพิจารณาได้จากผลงานของมูลนิธิในเรื่องการผลักดันให้มีการเข้าถึงยาสำหรับผู้ป่วยเอดส์ รวมทั้งการต่อสู้กับโรคระบาด
เคน กล่าวว่า หากเปรียบเทียบองค์กรและมูลนิธิของทรัมป์แล้ว จะเห็นได้ว่าองค์กรของทรัมป์นั้นเหมือนกับปลาหมึกที่หนวดของมันยุ่มย่ามไปทั่วโลก ซึ่งประเด็นเรื่องความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์จะเป็นที่ประจักษ์ก็ต่อเมื่อทรัมป์ได้เปิดเผยข้อมูลการเสียภาษีเท่านั้น
เคน กล่าวต่อไปว่า มีการค้นพบว่า มูลนิธิทรัมป์รับเงินส่วนบุคคลเป็นส่วนใหญ่ และใช้เงินเหล่านี้ไปกับการบริจาคที่ได้รับเสียงวิจารณ์ รวมทั้งรูปภาพของตัวทรัมป์เอง ซึ่งเงินบริจาคเหล่านี้ก็จำเป็นต้องได้รับการสรุปในประเด็นกฎหมายจากตัวทรัมป์เอง
นอกจากนี้ ทิม เคน ยังได้กล่าวถึงมูลนิธิคลินตันว่า เป็นองค์กรที่ไม่ได้แสวงผลกำไร และสมาชิกในครอบครัวของคลินตันก็ไม่ได้มีการถอนเงินจากมูลนิธิแต่อย่างใด ในขณะที่มูลนิธิของทรัมป์กลับสร้างความร่ำรวยให้กับครอบครัว
ด้านนายไมค์ เพนซ์ โต้กลับว่ามูลนิธิทรัมป์เป็นมูลนิธิเอกชนที่สร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติไม่แพ้มูลนิธิคลินตัน
นายเพนซ์ ได้กล่าววิจารณ์มูลนิธิคลินตันว่า มูลนิธิแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพียงแค่เปิดโอกาสให้ครอบครัวคลินตันได้เดินทางไปรอบโลก และเสริมว่ามูลนิธิคลินตันได้เปิดรับเงินบริจาคจากบรรดาผู้นำต่างประเทศเป็นเงินกว่าหลายล้านดอลลาร์ในช่วงที่นางฮิลลารีดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ทว่าบริจาคเงินเพื่อการกุศลไปไม่ถึง 10 เซนต์ต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับมูลนิธิทรัมป์ที่บริจาคเงินให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ทั้งนี้ มูลนิธิทรัมป์ได้ตกเป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก หลังหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ได้นำเงินบริจาคที่ได้รับจากผู้อื่นผ่านมูลนิธิทรัมป์ ไปใช้ในการชำระค่าปรับและจัดการกับคดีความเป็นจำนวนรวมกันถึง 258,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นปัญหาส่วนบุคคล เท่ากับว่าเป็นผลประโยชน์ส่วนตัว
ธุรกิจส่วนตัวของนายทรัมป์ได้เผชิญกับการฟ้องร้องทางกฎหมายมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์ Mar-a-Lago ซึ่งทางการสหรัฐได้ตั้งเงื่อนไขไว้ว่าจะยกเลิกค่าปรับ หากนายทรัมป์บริจาคเงินให้กับมูลนิธิการกุศลแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ ธุรกิจสนามกอล์ฟของนายทรัมป์ก็เคยถูกฟ้องร้องคดีด้วย โดยนายทรัมป์ได้เขียนเช็คในนามมูลนิธิทรัมป์ เพื่อบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลตามเงื่อนไขของโจทก์
นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังเคยสั่งจ่ายเงินในนามมูลนิธิเพื่อซื้อภาพวาดมาแล้วเป็นเงินหลายหมื่นดอลลาร์