นายวิตาลี เชอร์คิน ผู้แทนถาวรของรัสเซียในสหประชาชาติ แสดงความคิดเห็นต่อรายงานฉบับล่าสุดของกลไกสืบสวนร่วม (JIM) ภายใต้การนำขององค์การสหประชาชาติและผู้ประสานงานพิเศษขององค์การห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW-UN) ว่า รายงานดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากรายงานดังกล่าวไม่มีหลักฐานมาสนับสนุนได้อย่างเพียงพอ
รัสเซียกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวในระหว่างการประชุมแบบปิดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งการประชุมดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อพิจารณารายงานฉบับที่ 4 ของ JIM
นายเชอร์คินกล่าวว่า "ขณะนี้เราสามารถพูดได้แล้วว่า กรณีส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมีหลักฐานที่ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักฐานที่เป็นชิ้นส่วน นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยความย้อนแย้ง ดังนั้นรายงานฉบับนี้จึงไม่น่าเชื่อถือ"
กลไกสืบสวนร่วม (JIM) ในซีเรีย ถูกจัดตั้งขึ้นภายหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ใช้มติ 2235 เมื่อเดือนส.ค. 2558 เพื่อตรวจสอบหาผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีก่อเหตุโจมตีในซีเรีย
OPCW ย่อมาจาก Organization for the Prohibition of Chemical Weapons ซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศมีสำนักงานอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
ความคิดเห็นของเราที่มีต่อบทสรุปรายงานฉบับที่ 3 นั้น ครอบคลุมถึงกรณีดังที่มีการทิ้งถังจากแนวดิ่งลงไปในหลุมแคบ ๆ ซึ่งทาง JIM ไม่ได้พูดถึงความคืบหน้าใหม่ใดๆเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว แต่กลับตัดสินใจไปสรุปสาเหตุเบื้องต้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองมาเรีย เมืองซาร์มิน และเมืองทาลมินิส
ช่วงต้นปีที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงได้แสดงความวิตกกังวลเรื่องการใช้อาวุธเคมีของฝ่ายที่สู้รบกันในซีเรีย ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ก่อการร้ายด้วย
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุไว้ว่า JIM ซึ่งถูกก่อตั้งให้มีระยะเวลาทำงาน 1 ปี และมีแนวโน้มว่าจะถูกขยายระยะเวลาการปฏิบัติการออกไปอีกนั้น มีหน้าที่ในการตรวจหาบุคคล ผู้มีบทบาท กลุ่ม หรือรัฐบาลที่เข้าไปพัวพันกับการใช้สารเคมีเช่นคลอรีนหรือสารพิษอื่น ๆ เป็นอาวุธในซีเรีย ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงได้เน้นย้ำว่า ผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่ดังกล่าวจะต้องมีความน่าเชื่อถือ สำนักข่าวซินหัวรายงาน