นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่สหรัฐมีการขยายตัวที่ดีกว่าคาดในไตรมาส 3 ถือเป็นข่าวดีสำหรับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ยกเว้นนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งข่าวดังกล่าวอาจสกัดเส้นทางไปสู่ทำเนียบขาวของเขา
ที่ผ่านมา นายทรัมป์มักกล่าวโจมตีการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเดโมแครตว่ากำลังทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าขั้นวิบัติ และเขากล่าวในการโต้วาทีรอบที่ 3 กับนางฮิลลารี คลินตันว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังตายลงด้วยการมีจีดีพีที่ระดับ 1%
อย่างไรก็ดี การเปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่แข็งแกร่งในวันนี้ รวมทั้งอัตราว่างงานซึ่งอยู่ที่ระดับเพียง 5% ขณะที่ค่าจ้างกำลังเพิ่มมากขึ้น เป็นสิ่งที่ทำลายคำพูดของนายทรัมป์
"นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้นายทรัมป์ประสบความพ่ายแพ้ โดยเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะแข็งแกร่งจนเฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้" นายเกรก วัลลิเอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากฮอไรซอน อินเวสท์เมนท์ กล่าว
"รายงานในวันนี้แสดงภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการส่งออกที่พุ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนคะแนนเสียงของนางฮิลลารีที่อาจได้รับข่าวดีอีกครั้งหนึ่ง จากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐในวันศุกร์หน้า" เขากล่าว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นสำหรับการขยายตัวของจีดีพีประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 2.9% โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% จากแรงหนุนของการส่งออก และการลงทุนด้านสินค้าคงคลัง ถึงแม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง
การขยายตัวที่ระดับ 2.9% ในไตรมาส 3 ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2014 หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโต 1.4% ในไตรมาส 2 และ 0.8% ในไตรมาส 1 ขณะที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 1.1% ในช่วงครึ่งปีแรก
การส่งออกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 10% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2013 และช่วยหนุนตัวเลขจีดีพีคิดเป็นสัดส่วน 0.83% จากที่ช่วยหนุนเพียง 0.18% ในไตรมาส 2
ส่วนการลงทุนด้านสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 และช่วยหนุนตัวเลขจีดีพีคิดเป็นสัดส่วน 0.61%
อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.1% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับระดับ 4.3% ในไตรมาส 2