นายซีเนีย วิคเกตต์ ประธานโครงการสหรัฐและอเมริกาของชาแธม เฮ้าส์ ระบุว่า ข่าวการที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต จนส่งผลให้คะแนนนิยมของนางฮิลลารีลดลงใกล้เคียงกับของนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน จะกลับส่งผลดีต่อคะแนนเสียงของนางฮิลลารีเองในที่สุด
"ที่ผ่านมา นางฮิลลารีมีคะแนนนิยมทิ้งห่างนายทรัมป์ในการสำรวจ จนทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนบางส่วนต่างนิ่งนอนใจ และอาจจะไม่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากเชื่อว่านางฮิลลารีมีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้งอยู่แล้ว ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนนายทรัมป์จะมีความกระตือรือร้นออกมาใช้สิทธิมากกว่า เพราะมองว่านายทรัมป์กำลังมีคะแนนตามหลังนางฮิลลารี แต่จากการสำรวจล่าสุดที่พบว่าคะแนนนิยมของนายทรัมป์เริ่มไล่เบียดขึ้นมา ก็จะทำให้ผู้สนับสนุนนางฮิลลารีมีความต้องการออกมาใช้สิทธิลงคะแนนมากขึ้น" เขากล่าว
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวเอบีซี/วอชิงตันโพสต์ระบุว่า คะแนนนิยมของนางฮิลลารีได้ลดลง หลังจากมีรายงานข่าวว่า FBI เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี
ผลสำรวจระบุว่า คะแนนนิยมของนางฮิลลารีอยู่ที่ 46% ขณะที่คะแนนนิยมของนายทรัมป์อยู่ที่ 45% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า คะแนนนิยมของนางฮิลลารีลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีคะแนนนำหน้านายทรัมป์อยู่ถึง 12 จุด
นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการ FBI ส่งหนังสือไปยังสภาคองเกรสเมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่า FBI พบว่ามีอีเมล์ใหม่ของนางฮิลลารี ซึ่งพัวพันกับคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัว แม้ว่า FBI ประกาศปิดคดีดังกล่าวไปในเดือนก.ค.ก็ตาม
การเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ว่า FBI อาจจะรื้อฟื้นคดีดังกล่าวของนางฮิลลารีขึ้นมาใหม่ ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย.