Spotlight: ปธน.อิตาลีเร่งจัดตั้งครม.ชุดใหม่ หลังนายกฯลาออกเซ่นผลประชามติ

ข่าวการเมือง Friday December 9, 2016 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การประชุมร่วมพรรคการเมืองนำโดยนายแซร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี ซึ่งตามแถลงการณ์ระบุว่าจะมีขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดี ไปจนถึงช่วงบ่ายวันเสาร์นี้ มีจุดประสงค์เพื่อหาทางออกหลังจากการเมืองภายในประเทศเข้าสู่ทางตัน อันเป็นผลมาจากการประกาศลาออกของนายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรี ภายหลังข้อเสนอปฏิรูปรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ

ข้อเสนอปฏิรูปรัฐธรรมนูญของนายเรนซีประกอบไปด้วย การปรับโครงสร้างทางการเมืองโดยการลดจำนวนที่นั่งสมาชิกวุฒิสภาลงจาก 315 ที่นั่งให้เหลือเพียง 100 ที่นั่ง และยกเลิก 110 จังหวัดของประเทศเพื่อถ่ายโอนอำนาจปกครองบางส่วนจากเขตปกครองทั้งหมด 20 แห่งให้ตกเป็นของรัฐบาลแห่งชาติ

อย่างไรก็ตาม ผลการลงประชามติชี้ให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ราว 60% ไม่เห็นชอบในข้อเสนอปฏิรูปรัฐธรรมนูญดังกล่าว ขณะที่มีผู้สนับสนุนเพียง 40% เท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาหลังทราบผลการลงประชามติ นายเรนซีจึงได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่าเขาจะเข้ายื่นใบลาออกอย่างเป็นทางการต่อประธานาธิบดีมัตตาเรลลา หลังจากที่วุฒิสภามีมติรับรองร่างกฎหมายงบประมาณปี 2560 ซึ่งเป็นรายการคงค้างชิ้นสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีมัตตาเรลลาได้ขอให้รัฐบาลของนายเรนซีบริหารงานในช่วงต่อไปก่อน ในขณะที่ตนจะอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวปรึกษาหารือกับพรรคการเมืองต่างๆเพื่อหาทางออก

ด้านนายเรนซีได้กล่าวต่อสมาชิกพรรคของตนเองว่า อนาคตทางการเมืองของอิตาลีเป็นไปได้ 2 แบบ โดยแบบแรกได้แก่ การบริหารงานโดยรัฐบาลผสมยาวไปจนถึงสิ้นสุดวาระของสภานิติบัญญัติในปี 2561 และแบบที่สองได้แก่ การจัดการเลือกตั้งทันทีหากศาลรัฐธรรมนูญเห็นชอบให้ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งฉบับใหม่ (Italicum)

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญของอิตาลีแถลงว่า ศาลจะมีการพิจารณาเกี่ยวกับการนำกฎหมายเลือกตั้งฉบับใหม่มาใช้ในวันที่ 24 ม.ค. 2560 ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการเลือกตั้งใดๆเกิดขึ้นไปจนถึงวันที่ศาลระบุไว้ ทำให้ฝ่ายค้านที่เรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ทันทีแสดงความไม่พอใจ

นอกจากนี้ นายเบปเป กริลโล สมาชิกฝ่ายค้าน ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคขบวนการห้าดาว (M5S) ยังได้ยื่นข้อเสนอขอให้กฎหมายเลือกตั้งฉบับใหม่มีผลครอบคลุมวุฒิสมาชิก อีกทั้งยังประกาศผ่านบล็อกส่วนตัว เชิญชวนบรรดานักเคลื่อนไหวให้ร่วมเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงบุคคลอื่นๆที่จะมาดำรงตำแหน่งต่างๆในคณะรัฐมนตรีอีกด้วย

บทวิเคราะห์โดย สเตฟาเนีย ฟูโม รายงานโดยสำนักข่าวซินหัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ