ทำเนียบขาวแห่งสหรัฐออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ร่างกฎหมายเพื่อต่ออายุกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่าน (Iran Sanctions Act / ISA) ฉบับเดิมนั้น จะมีผลบังคับใช้โดยที่ไม่ต้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามรับรอง
แถลงการณ์ของทำเนียบขาว ระบุว่า ประธานาธิบดีโอบามาได้ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว แต่จะปล่อยให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวยืนยันว่า สหรัฐยังคงยึดมั่นในพันธสัญญาที่มีต่ออิหร่านตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่จัดทำขึ้นเมื่อเดือนก.ค. 2558
ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญสหรัฐนั้น กำหนดไว้ว่า หากประธานาธิบดีไม่ดำเนินการใดๆ ภายใน 10 วันนับจากวันที่รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายออกมาแล้วนั้น ให้ถือว่ากฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้โดยที่ไม่ต้องให้ประธานาธิบดีลงนามรับรอง อย่างไรก็ตาม หากสภาคองเกรสยกเลิกร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนเวลา 10 วัน ร่างกฎหมายฉบับนั้นก็เป็นอันตกไปโดยที่ไม่ต้องรอประธานาธิบดีลงนามเช่นกัน
ด้านนายเจอร์ เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ยืนยันว่า การต่ออายุกฎหมายคว่ำบาตรฉบับนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงขอบเขตการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐกับอิหร่านและประเทศมหาอำนาจ
นายเคอร์รี แถลงต่อสื่อมวลชนว่า "รัฐบาลสหรัฐจะยังคงเดินหน้าผลักดันให้หน่วยงานที่สำคัญทั้งหมด ทำการระงับมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องต่อไป ไม่ว่าจะมีการต่ออายุกฎหมาย ISA หรือไม่ก็ตาม" พร้อมกับให้คำมั่นว่าตัวเขาจะเป็นผู้ลงนามรับรองคำสั่งยกเลิกมาตรการเหล่านี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สวนทางกับกระแสการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่า โอบามาน่าจะลงนามเพื่อตรากฎหมายดังกล่าว ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลของโอบามาพยายามที่จะสร้างหลักประกันให้แก่อิหร่าน เพื่อให้เห็นว่าสหรัฐจะยังคงปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของข้อตกลงนิวเคลียร์โดยที่กฎหมายฉบับใหม่จะไม่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน