นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวโจมตีคำพูดของนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐในตะวันออกกลาง โดยนายเนทันยาฮูกล่าวว่า นายแคร์รีนั้น "หมกมุ่น" และ "ไม่เป็นธรรม"
นายเนทันยาฮูระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านทางโทรทัศน์ว่า "แคร์รีใส่ใจกับปัญหาการตั้งถิ่นฐานมากจนเกินไป แทนที่จะแก้ไขในส่วนต้นตอของความขัดแย้ง" และกล่าวว่า ตนนั้นทั้ง "ผิดหวัง" และ "ประหลาดใจ" กับสิ่งที่นายแคร์รีพูด พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า "นี่คือสิ่งที่รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติมหาอำนาจควรให้ความสำคัญจริงๆหรือไม่"
นอกจากนี้ นายเนทันยาฮุยังกล่าวว่า ตนเองมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ เรื่องการ "ยกเลิก" มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งประณามการขยายเขตที่อยู่อาศัยของอิสราเอล
ทั้งนี้ นายแคร์รีได้กล่าวสุนทรพจน์เป็นเวลากว่า 70 นาที ในช่วงก่อนที่นายบารัค โอบามา จะสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยเนื้อหาสำคัญอยู่ที่การกล่าวเตือนอิสราเอลว่า การสร้างที่อยู่อาศัยของอิสราเอลเป็นภัยต่อการตั้งรัฐปาเลสไตน์ และการนำมาซึ่งสันติภาพระหว่างทั้งสอง
อย่างไรก็ตาม ก่อนการขึ้นพูดของนายแคร์รีจะมีขึ้น นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาสนับสนุนอิสราเอล และกล่าวให้กำลังใจว่า อิสราเอลจำเป็นต้องเข้มแข็ง และรอการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของตนในวันที่ 20 ม.ค.
ด้านนายเนทันยาฮูได้ตอบกลับข้อความบนทวิตเตอร์ของทรัมป์ว่า "ขอบคุณสำหรับมิตรภาพอันอบอุ่นและแรงสนับสนุนอิสราเอลที่ชัดเจน" พร้อมด้วยภาพธงชาติของอิสราเอลและสหรัฐ และแท็กชื่อบุตรชายและบุตรสาวของทรัมป์
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีมติให้อิสราเอลยุติการก่อสร้างที่พักอาศัยในเขตเยรูซาเล็มตะวันออกและเขตเวสต์แบงก์ พร้อมทั้งประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดกฎหมายนานาชาติแบบซึ่งหน้า
ในปัจจุบัน มีชาวยิวกว่า 500,000 คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยพื้นที่นี้ถูกอิสราเอลเข้ายึดครองเมื่อปี 2510 ในช่วงสงคราม และถือเอาเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของตนเองตลอดมา แม้ว่าจะถูกประณามจากนานาประเทศก็ตาม