นายลี แจ ยัง รองประธานบริษัท ซัมซุง อิเล็คโทรนิคส์ ทายาทของซัมซุง กรุ๊ป กลุ่มบริษัทที่ดำเนินกิจการในรูปแบบของครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้เดินทางถึงสำนักงานอัยการในเช้าวันนี้ เพื่อเข้ารับการสอบปากคำเกี่ยวกับการพัวพันในคดีอื้อฉาวของนางปาร์ค กึน เฮ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
นายลี แจ ยัง ได้เดินทางถึงสำนักงานอัยการเมื่อเวลา 9.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ผมขอโทษทุกคนสำหรับเหตุการณ์นี้" พร้อมโค้งคำนับก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านใน
นายลีตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอื้อฉาวสำหรับการใช้อิทธิพลทางการเมืองหาประโยชน์ส่วนตัว เนื่องจากซัมซุงถูกตั้งข้อสงสัยว่าได้บริจาคเงินจำนวนมากให้แก่มูลนิธิไม่แสวงผลกำไร 2 แห่ง ที่ดำเนินงานโดยนางชเว ซุน ซิล เพื่อนสนิทของปธน.เกาหลีใต้
นอกจากนี้ ซัมซุงยังทำข้อตกลงมูลค่า 2.2 หมื่นล้านวอน (18.6 ล้านดอลลาร์) กับบริษัทในเยอรมนีที่นางชเวและลูกสาวเป็นเจ้าของ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับการฝึกขี่ม้าของลูกสาวนางชเว และมอบเงิน 1.63 หมื่นล้านวอนให้แก่ศูนย์กีฬาฤดูหนาวที่ดูแลโดยหลานสาวของนางชเว
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสงสัยว่า ซัมซุงมอบเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อแลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนการควบรวมกิจการบริษัท ซัมซุง ซีแอนด์ที และ เชอิล อินดัสทรีส์ เพื่อจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งโดยพฤตินัย เมื่อเดือนก.ค. 2558 โดยมีเป้าหมายเพื่อถ่ายโอนอำนาจการบริหารจากนายลี คุน ฮี ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวจากอาการโรคหัวใจกำเริบมาตั้งแต่เดือนพ.ค. 2557 ให้แก่นายลี แจ ยัง บุตรชายเพียงคนเดียวของเขา
นางปาร์ค กึน เฮ และ นายลี แจ ยัง ได้พบปะกันตลอดระยะเวลาที่มีการควบกิจการ ซึ่งหากมีการยืนยันว่า ทั้งสองทำข้อตกลงที่เอื้อผลประโยชน์ต่อกันจริง ทั้งคู่จะมีโทษสูงสุดคือการจำคุกตลอดชีวิต