ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริการ่วมลงนามในข้อตกลงเพิ่มเติมเพื่อยกเลิกการคุ้มครองทางกฎหมายต่อลูกจ้างบางรายที่ทำงานอยู่ในฐานทัพของสหรัฐ ด้วยความหวังว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยยับยั้งการเกิดอาชญากรรมบนเกาะโอกินาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพใหญ่ของกองทัพสหรัฐ
การลงนามในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีการจับกุมผู้รับเหมาในฐานทัพสหรัฐรายหนึ่งในข้อหาฆาตกรรมหญิงชาวโอกินาวาเมื่อปีที่แล้ว ข้อตกลงดังกล่าวเป็นส่วนเสริมของข้อตกลงทวิภาคีว่าด้วยสถานภาพของกองกำลังทหารสหรัฐในญี่ปุ่น หรือ Status of Forces Agreement (SOFA) ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าปกป้องเจ้าหน้าที่ทหารและลูกจ้างในฐานทัพสหรัฐจนเกินควร หากพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรม
ในข้อตกลง SOFA นั้น ทั้งสองประเทศได้กำหนดขอบเขตของแรงงานที่ทำงานอยู่ภายในฐานทัพสหรัฐไว้อย่างชัดเจนว่าเป็น "แรงงานเสริม" (civilian component) ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของสหรัฐหรือได้รับการคุ้มครองเพิ่มเติมหากถูกกล่าวหาว่าได้ก่ออาชญากรรมในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งครอบคลุมถึงผู้รับเหมาที่เข้ามาทำงานในฐานทัพสหรัฐด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ช่วงสิ้นปี 2559 ที่ผ่านมา มีแรงงานซึ่งเป็นพลเรือนจำนวน 7,300 ราย จากผู้รับเหมา 2,500 ราย ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในฐานทัพสหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุว่า ขระนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีแรงงานที่ถูกยกเว้นจากการคุ้มครองของ SOFA จำนวนเท่าใด แต่มีแนวโน้มว่าจำนวนจะลดลงจากกระบวนการคัดกรอง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน