ทำเนียบขาวเปิดเผยผ่านทางเว็บไซต์ว่า สหรัฐอเมริกาจะยกเลิกแผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศของประธานาธิบดี บารัค โอบามา
โดยหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐได้เพียงไม่นาน เว็บไซต์ของทำเนียบขาวก็ได้ประกาศว่า คณะบริหารรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่จะยกเลิกแผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Action Plan) ซึ่งอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ผลักดันและดำเนินการในระหว่างที่เขาทำหน้าที่บริหารประเทศ
"อุตสาหกรรมพลังงานของเราไม่ก้าวหน้า เพราะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เป็นภาระมานานเกินไป" ทำเนียบขาวระบุบนหน้าเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า "An America First Energy Plan"
แถลงการณ์ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ให้คำมั่นที่จะขจัดนโยบายต่างๆที่สร้างความเสียหายและไม่จำเป็น เช่น แผนปฏิบัติการสภาพภูมิอากาศและแหล่งน้ำ เนื่องจากการยกเลิกกฎข้อบังคับเหล่านี้จะส่งผลดีอย่างยิ่งในการช่วยแรงงานชาวอเมริกัน ด้วยการเพิ่มค่าแรงมากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะเวลา 7 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ นายทรัมป์ได้เคยกล่าวในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีว่า ภาวะโลกร้อนนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง พร้อมขู่ว่าจะถอนตัวออกจากความตกปารีส ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา
แผนการด้านพลังงานของปธน.ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐมีปริมาณสำรองพลังงานภายในประเทศที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อยู่มากมาย คิดเป็นมูลค่ารวมกันถึง 50 ล้านล้านดอลลาร์ และสหรัฐจะต้องนำรายได้จากการผลิตพลังงานไปใช้ประโยชน์ในการสร้างถนนหนทาง โรงเรียน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะต่างๆ
นอกจากนี้ แผนการดังกล่าวยังได้ระบุถึงการฟื้นฟูอุตสาหกรรมถ่านหินของอเมริกาด้วย
ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของปธน.ทรัมป์ยังได้ให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับประเทศพันธมิตรอ่าวอาหรับ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ด้านพลังงานในเชิงบวก โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ต่อต้านการก่อการร้าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน