นายเอ็นริเก เปนญา นิเอโต ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวว่า ประเทศเม็กซิโกปฏิเสธที่จะทำตามการตัดสินใจของสหรัฐ ที่จะสร้างกำแพงกั้นระหว่างชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยเม็กซิโก "จะไม่ยอมจ่ายเงินเพื่อสร้างกำแพงใดๆก็ตาม"
"ผมรู้สึกเสียใจและขอปฏิเสธการตัดสินใจของสหรัฐในการสร้างกำแพงที่จะทำให้เราแตกแยกกันไปอีกนาน" นายเปนญา นิเอโตล่าวผ่านวิดีโอบนทวิตเตอร์
ท่าทีดังกล่าวของผู้นำเม็กซิโกเกิดขึ้นหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งรับรองโครงการสร้างกำแพงกั้นระหว่างเขตแดนของสหรัฐ-เม็กซิโก
"เม็กซิโกไม่มีความเชื่อมั่นใดๆในกำแพง และผมก็ได้เน้นย้ำหลายครั้งแล้วว่า เม็กซิโกจะไม่จ่ายเงินเพื่อการสร้างกำแพงใดๆก็ตาม"
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเม็กซิโกยังกล่าวว่า การตัดสินใจในขั้นต่อไปของเม็กซิโกจะขึ้นอยู่กับรายงานการประชุมของเจ้าหน้าที่ที่ขณะนี้กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในกรุงวอชิงตัน และการปรึกษาหารือร่วมกับวุฒิสมาชิกและที่ประชุมใหญ่ประจำรัฐสภา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ให้ดำเนินการสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก เพื่อควบคุมการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและยกระดับความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งให้รัฐบาลระงับการมอบเงินช่วยเหลือให้แก่รัฐหรือเมืองต่างๆที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่า "sanctuary states and cities" โครงการสร้างกำแพงกั้นระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐนี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญของแคมเปญของทรัมป์ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ โดยโครงการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ ที่เชื่อว่าตำแหน่งงานในสหรัฐถูกผู้อพยพจากเม็กซิโกแย่งไป ขณะเดียวกัน ผู้ที่ต่อต้านโครงการนี้กลับมองว่านี่เป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งแยกและความเกลียดชังชาติพันธุ์อื่นๆ สำนักข่าวซินหัวรายงาน