บริษัทเจแปน แอร์ไลน์ส โค (JAL) เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้สอบถามรายละเอียดจากหน่วยงานป้องกันชายแดนของสหรัฐ เกี่ยวกับกรณีผู้โดยสารของสายการบินถือหนังสือเดินทางของ 7 ประเทศที่ถูกสั่งห้ามเข้าประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งระงับการผ่านเข้าประเทศสหรัฐของพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม ได้แก่ ซีเรีย เยเมน ซูดาน โซมาเลีย อิรัก อิหร่าน และลิเบีย เป็นเวลา 90 วัน และห้ามผู้ลี้ภัยจากทุกประเทศเข้าสหรัฐ เป็นเวลา 120 วัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมและการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่มีแผนที่จะสอบถามไปยังสหรัฐเกี่ยวกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ได้กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณของวุฒิสภาว่า ตนยังไม่สามารถแสดงความเห็นใดๆได้เกี่ยวกับคำสั่งพิเศษของปธน.ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า "ประชาคมโลกควรทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับปัญหาผู้ลี้ภัย"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า หากสายการบินเจแปน แอร์ไลน์สได้รับแจ้งยืนยันจากทางการสหรัฐว่า ผู้โดยสารของสายการบินที่ถือพาสปอร์ตของประเทศเหล่านี้จะถูกกักไม่ให้เข้าประเทศสหรัฐนั้น ทางสายการบินก็จะประกาศแจ้งให้ผู้โดยสารได้ทราบก่อนที่พวกเขาจะขึ้นเครื่อง นอกจากนี้เจแปน แอร์ไลนส์ยังได้แจ้งบนเว็บไซต์ด้วยว่า ผู้โดยสารที่จองตั๋วเที่ยวบินไปยังสหรัฐไว้ ควรเผื่อเวลาเดินทางมาเช็คอินที่สนามบินล่วงหน้า
รายงานระบุว่า จนถึงตอนนี้สายการบินของญี่ปุ่นที่ให้บริการเที่ยวบินไปยังสหรัฐนั้น ยังไม่ได้รับรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขของผู้โดยสารที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางผ่านเข้าสหรัฐ