ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐได้ดำเนินการตามขั้นตอนการไต่สวนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ โดยคณะผู้พิพากษาได้ตั้งคำถามต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของคณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกร้องให้ศาลยกเลิกการระงับคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศห้ามพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าประเทศสหรัฐ
สื่อต่างประเทศรายงานว่า การไต่สวนครั้งนี้เป็นไปอย่างเผ็ดร้อน โดยผู้พิพากษาได้ตั้งคำถามว่า คณะทำงานของทรัมป์มีหลักฐานใดๆที่จะสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่า พลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมเหล่านี้ เป็นบุคคลอันตราย
ศาลอุทธณ์ได้กล่าวในช่วงท้ายของการไต่สวนว่า ศาลจะตัดสินใจเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด และมีความเป็นไปได้สูงว่า ข้อพิพาทดังกล่าวจะถูกส่งให้กับศาลสูงพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ คณะบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลให้ยกเลิกคำสั่งระงับมาตรการห้ามผู้ลี้ภัยและประชาชนจาก 7 ประเทศมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐ ซึ่งได้แก่ อิรัก ซีเรีย อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน แต่ศาลได้ปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าว
ขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่า จะใช้ข้อกฎหมายในทุกๆด้านที่มี เพื่อพลิกคำตัดสินของศาลที่ได้ระงับคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศว่า เขาจะไม่หันกลับมายกเลิกคำสั่งของเขาในการห้ามชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐ โดยเขายืนยันว่าจะต่อสู้ทางกระบวนการทางกฎหมายจนถึงที่สุด
"เราจะต่อสู้ผ่านระบบศาลจนถึงที่สุด นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับประเทศ ไม่ว่าผม หรือผู้ที่จะขึ้นมารับตำแหน่งในเวลาต่อไป เราต้องรักษาความปลอดภัยในประเทศของเรา" ปธน.ทรัมป์กล่าว