นายซิกมา กาเบรียล รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนี กล่าวว่า การที่เยอรมนีต้องเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมเป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ในช่วง 10 ปีต่อจากนี้ คงจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเท่าไรนัก
หลังจากที่ได้ประชุมร่วมกับนายสเวน มิกเซอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของเอสโตเนีย นายกาเบรียลได้ชี้ให้เห็นว่าหากเยอรมนีต้องจ่ายงบด้านการทหารให้กับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ตามเป้าหมายดังกล่าว เท่ากับว่าประเทศจะต้องจ่ายเงินจำนวน 3 หมื่นล้านยูโร (3.16 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วง 8 ปีถัดจากนี้ ซึ่งจะทำให้งบประมาณของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้นถึง 10%
เยอรมนีจะมุ่งไปที่การสร้างสันติภาพแทน ด้วยการจัดหาที่พักอาศัยและมอบความช่วยเหลืออื่นๆ ให้กับผู้ลี้ภัยหลายแสนคน โดยรมว.ระบุว่า "เยอรมนีต้องจ่ายเงินมากกว่า 30 ล้านยูโรทุกๆปีเพื่อการนี้"
ทั้งนี้ ผู้นำทั้ง 2 ต่างให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์แบบทวิภาคี โดยเอสโตนีซึ่งกำลังจะก้าวขึ้นเป็นประธานคณะมนตรียุโรป มองไปถึงอนาคตของกลุ่มและสถานการณ์ในยูเครน
ทั้งนายกาเบรียลและนายมิกเซอร์ต่างย้ำจุดยืนของประเทศของตนที่ต้องการสร้างความมั่นคงให้กับภูมิภาค และเน้นความจำเป็นการแก้ปัญหาและรักษาความเป็นเอกภาพในหมู่ประเทศสมาชิก โดยนายมิกเซอร์กล่าวว่า "ความแข็งแกร่งของสหภาพยุโรปเป็นความสนใจของเรา และเป็นสิ่งที่บรรดาพันธมิตรคาดหวังจากเรา"
อย่างไรก็ดี ขณะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีจูริ ราทาส ของเอสโตเนีย ผู้นำทั้ง 2 ต่างเห็นพ้องกันถึงความจำเป็นที่จะสร้างความมั่นใจว่า ประเทศในยุโรปมีการเชื่อมโยงกันในหลายระดับ ทั้งด้านพลังงาน การขนส่ง และเครือข่ายดิจิทัล สำนักข่าวซินหัวรายงาน