อัยการสูงสุดรัฐวอชิงตันเตรียมยื่นหนังสือขอให้ศาลสหรัฐพิจารณายับยั้งคำสั่งพิเศษฉบับใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้ห้ามพลเมืองจาก 6 ประเทศมุสลิมและผู้อพยพจากทั่วโลกเดินทางเข้าสหรัฐเป็นการชั่วคราว ขณะที่รัฐฮาวาย แมสซาชูเซตส์ และนิวยอร์ก ประกาศว่าจะยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้ระงับคำสั่งฉบับปรับปรุงของปธน.ทรัมป์เช่นกัน
นายบ็อบ เฟอร์กูสัน อธิบดีกรมอัยการรัฐวอชิงตัน ระบุในเอกสารที่จะยื่นต่อศาลสหรัฐว่า คำสั่งของศาลในการยับยั้งมาตรการแบนชาติมุสลิมของทรัมป์ก่อนหน้านี้ ยังคงมีผลบังคับใช้กับคำสั่งใหม่ของปธน.ทรัมป์ที่ลงนามไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วย
ก่อนหน้านี้ในเดือนก.พ. ผู้พิพากษาเจมส์ โรบาร์ต แห่งศาลแขวงตะวันตกรัฐวอชิงตัน ในซีแอตเทิล ได้มีคำวินิจฉัยให้ยับยั้งคำสั่งแบนฉบับแรกของปธน.ทรัมป์ ตามคำขอของรัฐวอชิงตันและมินนิโซตา เนื่องจากเห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญของสหรัฐ
นายเฟอร์กูสัน ระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า "สารจากผมถึงปธน.ทรัมป์ก็คือ อย่าได้รีบร้อนเกินไปนัก หลังจากที่เขาได้ใช้เวลากว่า 1 เดือนในการแก้ไขปรับปรุงคำสั่งฉบับแรกที่มีการบังคับใช้อย่างรีบร้อนนั้น แต่ล่าสุด คำสั่งใหม่ที่มาแทนฉบับเก่านี้ ยังคงมีเนื้อหาที่ไม่ต่างจากเดิมนัก ทั้งยังมีข้อกำหนดที่ขัดต่อกฎหมายเช่นเดิม ดังนั้น เราจึงขอให้ผู้พิพากษาโรบาร์ตให้คำวินิจฉัยยืนยันว่า คำสั่งของศาลก่อนหน้านี้ ยังคงมีผลบังคับใช้ครอบคลุมเต็มที่ในการยับยั้งคำสั่งใหม่ของปธน.ทรัมป์ด้วย"
ขณะที่นายดัก ชิน อธิบดีกรมอัยการรัฐฮาวาย กล่าวว่า "เนื้อหาหลักในคำสั่งประธานาธิบดีฉบับใหม่ไม่แตกต่างจากของเดิมเลย เพราะยังคงมีการห้ามชาวมุสลิมจากหลายประเทศเดินทางเข้าสหรัฐอยู่ดี"
นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่า รัฐออริกอนและนิวยอร์ก เตรียมเดินหน้าต่อต้านคำสั่งใหม่ของปธน.ทรัมป์เช่นกัน