อย่างไรก็ดี ในขณะที่เธอกำลังออกจากทำเนียบประธานาธิบดี ผลพวงจากการที่ปาร์คขาดการไตร่ตรองจนเปิดทางให้สหรัฐเข้ามาติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธขั้นสูง (THAAD) ได้ในเกาหลีใต้นั้น จะยังคงเป็นประเด็นหลอกหลอนเกาหลีใต้และทั้งภูมิภาค
สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้จะมีขึ้นภายในเวลา 60 วันนับจากนี้ โดยคาดว่าการเลือกตั้งจะกำหนดขึ้นในวันที่ 9 พ.ค.
แม้ว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดจะชนะการเลือกตั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ผู้นำประเทศคนใหม่ของเกาหลีใต้จำเป็นต้องเผชิญกับปัญหาด้านภูมิศาสตร์การเมืองที่ละเอียดอ่อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศนี้
เนื่องด้วยนโยบาย THAAD ของนางปาร์ค เกาหลีใต้จึงได้รับผลกระทบอย่างหนักในแง่ของความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ออกจากคาบสมุทรเกาหลี
สำหรับใครก็ตามที่จะเข้ามาเป็นผู้นำเกาหลีใต้ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ คำถามที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดอย่างหนึ่งซึ่งผู้นำคนใหม่ต้องตอบ นั่นคือแนวทางรับมือกับความสัมพันธ์ที่ถูกบั่นทอนอย่างรุนแรงกับจีน รวมถึงการรับมือกับปัญหาท้าทายด้านความมั่นคงอันเป็นผลจากระบบ THAAD นี้
หากเกาหลีใต้ต้องการความสงบสุขอย่างแท้จริงต่อตนเองและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงทั่วทั้งภูมิภาค ก็ควรหาทางจัดการกับภัยคุกคามความมั่นคงที่ THAAD มีต่อจีน ควรพิจารณานโยบายเกาหลีเหนือใหม่ และหันหน้าเจรจาให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การใช้อำนาจทางทหารและการมุ่งร้ายต่อกันก็เปรียบเสมือนม้าเปลี่ยวที่หุนหันพลันแล่น จำเป็นต้องผูกเชือกล่ามไว้ให้แน่น
บทวิเคราะห์โดยหลิว ชาง นักเขียนประจำสำนักข่าวซินหัว