ผู้นำในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกโรงวิจารณ์ความเคลื่อนไหวล่าสุดของตุรกี ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดกัน ได้ออกโรงวิจารณ์รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ว่า เป็นผู้นิยมในลัทธินาซีและฟาสซิสท์ ภายหลังจากที่ขบวนรถของเบตุล ซายัน คายา รัฐมนตรีกระทรวงนโยบายครอบครัวและสังคมของตุรกีถูกสกัดไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมงในบริเวณใกล้ๆกับสถานกงสุลตุรกีในเมืองร็อตเตอร์ดัมเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความสัมพันธ์ทางการทูตที่สั่นคลอน
นายมาร์ค รุตเตอ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ กล่าวถึงการแสดงความเห็นของผู้นำตุรกีว่า เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนี กล่าวว่า เขาหวังว่า ตุรกีจะกลับเข้าสู่ภาวะที่สมเหตุสมผลของตนเอง
นอกจากนี้ นายลาร์ส ล็อกเก รัสมุสเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กเองก็ได้เลื่อนการเดินทางเยือนตุรกี โดยให้เหตุผลว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดระหว่างตุรกีและเนเธอร์แลนด์ การประชุมที่จะเกิดขึ้นนั้นจึงไม่สมควรที่จะแตกแถวไปจากหลักการทางการทูตที่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักหน่วง
ทั้งนี้ ตุรกีจะจัดการลงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเพิ่มอำนาจให้กับประธานาธิบดีตุรกีในวันที่ 16 เมษายนนี้ ด้วยเหตุนี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆของตุรกีจึงเดินสายหาเสียงกับชาวตุรกีที่อาศัยอยู่ในประเทศต่างๆของยุโรป