ผลการสำรวจในวันนี้แสดงให้เห็นว่า นางมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด และหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป ยังคงมีคะแนนนำในการเลือกตั้งรอบแรกของการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส แต่จะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งรอบ 2
ทั้งนี้ การเลือกตั้งของฝรั่งเศสจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกจะมีขึ้นในวันที่ 23 เม.ย. ซึ่งแต่ละพรรคจะทำการส่งตัวแทนพรรคลงแข่งขัน ส่วนนักการเมืองอิสระก็สามารถลงสมัครแบบอิสระได้เช่นกัน แต่ต้องได้รับการรับรองจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา และผู้แทนท้องถิ่นอย่างน้อย 500 คน หลังจากนั้นจะเริ่มให้ประชาชนลงคะแนนเสียง โดยผู้ที่มีคะแนนสูงสุด 2 อันดับจะเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. โดยประชาชนจะต้องมาลงคะแนนเสียงกันอีกครั้ง ก่อนที่จะมีผู้ชนะเพียงคนเดียวที่จะขึ้นไปนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ผลการสำรวจของ The Opinionway พบว่า นางเลอเปนจะได้คะแนนเสียง 27% ในการเลือกตั้งรอบแรก ขณะที่นายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ได้คะแนน 24% ส่วนนายฟรองซัวส์ ฟิยง อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส จากพรรค Les Republicains จะตกรอบแรกด้วยคะแนน 20%
สำนักงานอัยการฝรั่งเศสระบุว่า นายฟิยงได้ถูกศาลตั้งข้อหาในกรณีที่เขาได้ว่าจ้างภรรยาและบุตรของเขาด้วยเงินจากภาษีของประชาชนเพื่อเข้ามาทำหน้าที่ผู้ช่วยของเขาในรัฐสภา แต่ไม่มีหลักฐานระบุว่า ภรรยาและบุตรของเขาได้ปฏิบัติงานจริง
การที่นายฟิยงถูกศาลตั้งข้อหาดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อโอกาสในการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส หลังจากที่เขาเคยเป็นตัวเก็งก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจพบว่า นางเลอเปนจะพ่ายแพ้นายมาครองในการเลือกตั้งรอบ 2 ด้วยคะแนน 40% ต่อ 60% และหากเป็นนายฟิยงที่เข้ารอบ 2 แทนนายมาครอง นางเลอเปนก็จะประสบความพ่ายแพ้เช่นกัน ด้วยคะแนน 43% ต่อ 57%