นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนางนิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสก็อตแลนด์ ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมงก่อนที่รัฐสภาสก็อตแลนด์จะอภิปรายเพื่อลงคะแนนเสียงว่า สก็อตแลนด์จะจัดให้มีการลงประชามติเพื่อถอนตัวจากสหราชอาณาจักรเป็นครั้งที่ 2 หรือไม่
การประชุมที่เมืองกลาสโกลว์ยังเกิดขึ้นก่อนหน้าเพียง 48 ชั่วโมงที่นายกฯอังกฤษจะเดินหน้าขบวนการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างเป็นทางการ
นายกฯสก็อตแลนด์เองต้องการให้มีการจัดลงประชามติเรื่องการแยกตัวจากสหภาพยุโรป ก่อนที่สหภาพยุโรปจะให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับข้อตกลง Brexit ของอังกฤษ ในขณะที่เทเรซา เมย์ ไม่อยากให้มีการจัดลงประชามติจนกว่าจะสามารถสรุปข้อตกลงกับทางสหภาพยุโรปได้
แม้ว่า การประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาจะมีทั้งรอยยิ้มและเต็มไปด้วยมิตรภาพ ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พวกเธอจะไม่เปลี่ยนใจในจุดยืนของตนเอง
การประชุมซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่นายกฯอังกฤษเดินทางเยือนสก็อตแลนด์เป็นเวลา 1 วันนั้น กินเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งนายกฯสก็อตแลนด์บอกเล่าถึงการเจรจาครั้งนี้ว่าเป็นไปอย่างฉันท์มิตร และเธอก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายในเรื่องของขั้นตอนการดำเนินการที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการใส่ใจ
นางสเตอร์เจียนยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อด้วยว่า เธออวยพรให้นายกฯอังกฤษเจรจาต่อรองกับสหภาพยุโรปเรื่อง Brexit ด้วยดี แต่เธอเองก็เหน็ดเหนือยกับการที่นางเมย์ไม่ได้แสดงท่าทียินยอมใดๆกับข้อเรียกร้องที่เธอต้องการให้บรรจุเรื่องของสก็อตแลนด์ไว้ในข้อตกลง Brexit
หนังสือพิมพ์สก็อตแมนส์ของสก็อตแลนด์รายงานว่า เมื่อถูกตั้งคำถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากข้อเรียกร้องของสเตอร์เจียนให้มีการจัดการลงประชามติอีกครั้งถูกปฏิเสธ นายกฯสก็อตแลนด์ กล่าวว่า เราจะกำหนดเรื่องนี้ไว้ในแผน ซึ่งเรามีแนวคิดในเรื่องนี้อยู่แล้ว หากรัฐบาลอังกฤษยังคงจุดยืนของตนเองไว้เหมือนเช่นในปัจจุบัน เราก็จะหารือกับรัฐสภาถึงสิ่งที่จะดำเนินการต่อไป
ก่อนหน้านี้ นางเมย์ได้กล่าวกับข้าราชการที่เมืองไคลไบรด์ และกล่าวถึงความสำคัญของการยึดเหนี่ยวซึ่งกันและกันไว้ในกลุ่มสหราชอาณาจักร และระบุถึงแผนการของเธอที่มีสำหรับอังกฤษ ซึ่งเธอเชื่อว่า เมื่อประเทศได้ร่วมมือกันแล้ว ข้อจำกัดใดๆก็ไม่สามารถมาขวางกั้นได้
เมย์ กล่าวว่า สก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือยังคงได้รับการเคารพอย่างเต็มที่ และยังมีความแข็งแกร่ง รวมทั้งมีการกระจายอำนาจ แต่เราไม่สามารถปล่อยให้ความเป็นหนึ่งเดียวนี้ต้องพบกับความพ่ายแพ้หรืออ่อนแอลง หรือแม้แต่การแยกตัวของประชาชนได้
นักสังเกตการณ์ด้านการเมืองมองว่า การที่นายกฯอังกฤษเดินทางเยือนสก็อตแลนด์ก่อนหน้าที่กระบวนการ Brexit จะเปิดฉากนั้น เปรียบเสมือนการเรียกร้องให้สหราชอาณาจักรรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวไว้
เมย์กล่าวสรุปในสุนทรพจน์ของเธอว่า เมื่อใดที่อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป และเราได้กำหนดบทบาทใหม่ของเราในโลกใบนี้ ความแข็งแกร่งและเสถียรภาพของกลุ่มเราจะกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
เซอร์ไคร์ สตาร์เมอร์ รัฐมนตรีเงาด้าน Brexit ของพรรคแรงงาน ได้กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันจันทร์ที่ชาแธม เฮาส์ กรุงลอนดอนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ชาแธม เฮาส์ ได้สัมผัสกับการอภิปรายมานับไม่ถ้วน แต่ไม่มีการอภิปรายครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่จะสำคัญสำหรับอังกฤษเท่าครั้งนี้
สตาร์เมอร์ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้าที่จะมีการบังคับใช้มาตรา 50 นั้น เธอและพรรคแรงงานจะให้ความสำคัญกับรัฐบาลและนำเสนอวิสัยทัศน์ที่เป็นทางเลือกสำหรับเราในยุโรป เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นวันที่มีการจัดลงประชามติเรื่องสหภาพยุโรปนั้น ถือเป็นวันที่ได้มีการตอบคำถามที่เปิดกว้างในอีกหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคตของสหราชอาณาจักรกับยุโรป
สตาร์เมอร์กล่าวถึงความเสี่ยงครั้งนี้ว่าเป็นเดิมพันที่สูงสำหรับบททดสอบ 6 รายการที่ทางพรรคฝ่ายค้านได้กำหนดไว้ และวิธีการของนายกฯอังกฤษก็ไม่ได้ออกมาดีเท่าไรนัก
“พรรคแรงงานจะไม่สนับสนุนข้อตกลงที่ไม่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าและบททดสอบอีก 6 รายการที่เราได้กำหนดไว้ในวันนี้” สตาร์เมอร์ กล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน