นายเดอร์ริค วัตสัน ผู้พิพากษาศาลแขวงรัฐฮาวาย มีคำวินิจฉัยให้ยับยั้งคำสั่งแบนพลเมืองจาก 6 ชาติมุสลิมฉบับใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ "อย่างไม่มีกำหนด"
ทั้งนี้ ศาลได้วินิจฉัยแล้วเห็นว่า คำสั่งของปธน.ทรัมป์อาจสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อนักศึกษาชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาศึกษาต่อในสหรัฐ รวมถึงการจ้างแรงงานจากต่างประเทศอีกด้วย
ทางด้านทรัมป์ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่า คำสั่งของเขามีเป้าหมายเพื่อปกป้องชาวอเมริกันจากการก่อการร้ายและผู้ไม่หวังดีที่อาจแฝงตัวเข้าในกลุ่มผู้ลี้ภัย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของศาลแขวงรัฐฮาวายมีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมานั้น ผู้พิพากษาของศาลรัฐแมรีแลนด์มีคำวินิจฉัยให้ยับยั้งคำสั่งฉบับใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้ห้ามพลเมืองจาก 6 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐ โดยศาลมองว่า คำสั่งดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐ เนื่องจากมีการกีดกันทางศาสนา
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีฉบับใหม่เมื่อวันที่ 6 มี.ค. โดยยกเลิกคำสั่งเดิมที่ออกในเดือนม.ค.ในการห้ามพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐ ขณะที่คำสั่งใหม่ได้ยกเว้นอิรักจากรายชื่อประเทศซึ่งมีการประกาศก่อนหน้านี้
ในคำสั่งฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 มี.ค. พลเมืองจาก 6 ชาติมุสลิม ซึ่งได้แก่ ซูดาน ซีเรีย อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย และเยเมน จะถูกสั่งห้ามเดินทางเข้าสหรัฐเป็นเวลา 90 วัน