ประธานาธิบดีเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดกัน ของตุรกี เปิดเผยว่า การเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มอำนาจของประธานาธิบดีนั้น จะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ
ทั้งนี้ ปธน.เออร์โดกันระบุว่า เศรษฐกิจตุรกีขยายตัว 2.9% ในปี 2559 แม้ว่าบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือหลายแห่งได้ให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือเป็นลบแก่อินโดนีเซียก็ตาม
ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่กรุงอังการา นายเออร์โดกันเผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 2.9% ในปี 2559 นั้นยังไม่เพียงพอสำหรับตุรกี อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าการคาดการณ์ของบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
สำนักงานสถิติตุรกีเปิดเผยในรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของตุรกีอยู่ที่ระดับ 2.9% ในปี 2559 โดยมีรายได้ประชากรต่อหัวอยู่ที่ 10,807 ดอลลาร์สหรัฐ
ปธน.ตุรกีระบุว่า "หน่วยงานบางแห่งได้ประเมินดัชนีดังกล่าวต่ำเกินไป" พร้อมกล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) อยู่ที่ระดับ 1.5% และ 1.7% ตามลำดับ
นอกจากนี้ นายเออร์โดกันยังวิจารณ์กลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ที่เลื่อนเวลาการพิจารณารับตุรกีเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ออกไปเป็นเวลานานถึง 54 ปี โดยกล่าวว่า " EU เป็นสหภาพของชาวคริสเตียน"
ปธน.ตุรกีกล่าวว่า "พวกเขาโกหกเราเป็นเวลาหลายทศวรรษและก็ยังโกหกต่อไป และจะมีการประเมินประเด็นดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 16 เม.ย."