Commentary: "สี จิ้นผิง" พบ "ทรัมป์" ที่ฟลอริดาพรุ่งนี้ บทพิสูจน์ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

ข่าวการเมือง Wednesday April 5, 2017 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การพบกันระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ฟลอริดา ในวันพฤหัสและศุกร์ที่จะถึงนี้ เป็นตัวกำหนดแนวทางในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศในอนาคต

การพบกันที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ รีสอร์ท Mar-a-Lago ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสอง นับตั้งแต่ ปธน.ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และได้ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยจะเน้นไปที่การพูดคุยหารืออย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องที่มีความกังวลร่วมกัน

การประชุมในครั้งนี้ได้ส่งสัญญาณในเชิงบวก และช่วยสร้างความมั่นใจว่าทั้งสองประเทศได้ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน แม้ในหมู่ผู้ที่กำลังตื่นตระหนักถึงความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นจากนโยบายบริหารประเทศของปธน.ทรัมป์

นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 2522 ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐเป็นไปอย่างขึ้นๆลงๆ แต่ทั้งสองประเทศยังคงรักษาความร่วมมือในหัวข้อหลักๆร่วมกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่มีการพึ่งพาและเพิ่มพูนผลประโยชน์ร่วมกันมากยิ่งขึ้น

ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้เดินทางมาอย่างยาวไกล โดยมูลค่าทางการค้าระหว่างกันได้เพิ่มถึง 207 เท่าจากเมื่อปี 2522 เป็น 5.196 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2559 ขณะที่การลงทุนแบบทวิภาคีก็มีมูลค่าสูงกว่า 1.7 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2559 นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังได้ร่วมมือกันต่อสู้กับการก่อการร้าย, การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และประเด็นอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อโลกอีกด้วย

ความสำเร็จเช่นนี้เป็นดั่งเสียงสะท้อนถึงวิธีการที่จะได้มาซึ่งผลประโยชน์จากความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐ ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่เพียงกับประชาชนของทั้งสองประเทศเท่านั้น หากแต่ยังมีผลต่อทั่วโลก โดยที่ความสัมพันธ์ดังกล่าวได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าเดินมาในทิศทางที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ดี เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนและสหรัฐได้ตกลงกันว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ก้าวไปข้างหน้า โดยปราศจากการเผชิญหน้า ไม่มีความขัดแย้ง แต่จะให้ความเคารพซึ่งกัน และเป็นความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย และคาดว่าหลักการนี้จะถูกนำมาใช้ต่อไป ตามที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ได้ย้ำในขณะเดินทางเยือนประเทศจีนเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และปธน.ทรัมป์ได้ให้สัญญาว่าสหรัฐจะยังคงยึดมั่นต่อนโยบายจีนเดียว ในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์กับปธน.สี เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา

การรักษาความสัมพันธ์อันใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างผู้นำระดับสูง จะช่วยสร้างความมั่นใจว่าความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง ท่ามกลางการเฝ้ามองของโลกทั้งโลก ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังอ่อนแอ และมีการขยายตัวของแรงต่อต้านกระแสโลกาภิวัฒน์เช่นนี้

ทั้งนี้ คาดว่าในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น ผู้นำทั้งสองจะมองหาจุดยืนร่วมกันในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า รวมถึงประเด็นอื่นๆ โดยผลของการประชุมจะส่งผลกระทบต่อทั่วโลก เพราะฉะนั้นในฐานะประเทศสำคัญ สิ่งที่พวกเขาควรทำย่อมมีมากกว่าที่จะมองหาเพียงแค่ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แต่ยังต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับโลก พร้อมแบกความรับผิดชอบ ว่าจะร่วมมือกันและแสวงผลประโยชน์ต่อสาธารณะ และเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับมวลมนุษยชาติ โดยอาศัยกลเม็ดในการพูดคุยเพื่อหลีกเลี่ยง“กับดักทิวซิดิดีส" (Thucydides trap) หรือความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างประเทศที่เป็นมหาอำนาจเดิมกับประเทศที่กำลังก้าวขึ้นมาเพื่อเป็นมหาอำนาจใหม่

บทวิเคราะห์โดย จาง ชุนเสี่ยว จากสำนักข่าวซินหัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ