นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ได้เรียกร้องให้รัสเซียและอิหร่านใช้อิทธิพลที่มีต่อซีเรีย เพื่อยับยั้งไม่ให้มีการโจมตีด้วยอาวุธเคมี
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สื่อรายงานว่า ประชาชนในซีเรียกว่า 70 คนได้เสียชีวิต และบาดเจ็บอีกกว่า 200 คน หลังมีการใช้แก๊สโจมตีกลุ่มกบฏในจังหวังอิดลิบทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
นายทิลเลอร์สันกล่าวว่า "สหรัฐขอประนามการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองอิดลิบ ซึ่งนับเป็นการโจมตีด้วยอาวุธชนิดเดียวกันเป็นครั้งที่สามในระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา"
ทั้งนี้ สหรัฐได้เรียกร้องให้รัสเซียและอิหร่าน "ใช้อิทธิพลของตนที่มีต่อรัฐบาลซีเรีย ยับยั้งมิให้มีการโจมตีในรูปแบบที่เลวร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นอีก"
นายทิลเลอร์สันยังเสริมว่า รัสเซียและอิหร่าน "ในฐานะผู้ที่อ้างตนว่าเป็นตัวกลางในการเจรจาหยุดยิงในการประชุมที่เมืองอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน" เป็นผู้ที่ต้องแบกความรับผิดชอบทางจริยธรรมอันใหญ่หลวงกับการเสียชีวิตของประชาชน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายฌอน สเปนเซอร์ โฆษกประจำทำเนียบขาว ได้แถลงประนามการโจมตีด้วยแก๊สที่ส่งผลให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ระบุเป็นการกระทำที่เลวร้ายของฝั่งรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด
อย่างไรก็ตาม นายสเปนเซอร์มิได้แสดงหลักฐานใดๆที่ระบุว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของรัฐบาลซีเรีย