ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ แถลงหลังจากที่กองทัพสหรัฐได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์คจำนวนกว่า 50 ลูกเข้าใส่ซีเรียในวันนี้ว่า สหรัฐตัดสินใจยิงถล่มซีเรีย เนื่องจากมีข้อมูลชี้ชัดว่า นายบาชาร์ อัล อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ได้ใช้อาวุธเคมีร้ายแรงโจมตีกลุ่มกบฏในจังหวังอิดลิบทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในซีเรียเสียชีวิตจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ฟลอริดา คลับ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาให้การต้อนรับปธน.สี จิ้นผิง โดยเขากล่าวว่า "ผมได้สั่งการให้กองทัพสหรัฐยิงขีปนาวุธถล่มซีเรียในวันนี้ โดยพุ่งเป้าโจมตีในจุดที่ซีเรียใช้อาวุธเคมี" พร้อมกับกล่าวว่า การตัดสินใจยิงถล่มซีเรียในครั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องความมั่นคงของสหรัฐ และมีขึ้นหลังจากที่มีประชาชน รวมทั้งเด็กๆในซีเรีย เสียชีวิตถึง 70 คน จากการถูกสังหารด้วยก๊าซพิษ ซึ่งถือเป็นการสังหารประชาชนให้ตายอย่างช้าๆและทรมานมาก
นอกจากนี้ ทรัมป์กล่าวว่า ซีเรียเพิกเฉยต่อคำเตือนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศทั่วโลกร่วมมือกับสหรัฐในการยุติการคุกคามของกลุ่มก่อการร้าย
ทั้งนี้ ทางการสหรัฐรายงานว่า สหรัฐได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์คในประเทศซีเรีย หลังจากที่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ได้มีการใช้แก๊สโจมตีกลุ่มกบฏในจังหวังอิดลิบทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในซีเรียกว่า 70 คนเสียชีวิต
การโจมตีจากฝั่งรัฐบาลซีเรียถูกประณามจากนานาประเทศ โดยประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่าเป็นการ "หยามมนุษยชาติ"
สำหรับการโจมตีจากฝั่งสหรัฐวันนี้มีเป้าหมายที่โรงเก็บเครื่องบิน เครื่องบิน และแทงค์เชื้อเพลิง ที่ลานบินทหารแห่งหนึ่งในซีเรีย โดยสหรัฐได้ยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์คของบริษัท Raytheon ประมาณ 60 ลูก โดยยิงจากเรือพิฆาต 2 ลำ
การโจมตีดังกล่าวขัดกับจุดยืนของปธน.ทรัมป์อย่างสิ้นเชิง เพราะในช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้น ปธน.ทรัมป์ได้ตำหนิผู้นำรายก่อนๆมาโดยตลอดในเรื่องการเข้าไปแทรกแซงปัญหาขัดแย้งในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า เมื่อได้เห็นภาพเด็กๆเสียชีวิตจากทั้งหมดกว่า 70 ชีวิตที่ดับสิ้นไปในการโจมตีวันที่ 4 เม.ย. ซึ่งได้มีการแผยแพร่ออกอากาศไปทั่วโลกนั้น การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ "ข้ามเส้น" จนทำให้เขาเปลี่ยนใจ