รัฐบาลเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีซีเรียของสหรัฐเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า การกระทำของสหรัฐ "เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้"
แถลงการณ์จากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ระบุว่า การกระทำของสหรัฐถือเป็นการแทรกแซงอำนาจอธิปไตยของชาติอื่นอย่างโจ่งแจ้ง ด้วยเหตุนี้ เกาหลีเหนือจึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และเพิ่มแสนยานุภาพทางทหาร เพื่อป้องกันการรุกรานจากสหรัฐ
นอกจากนี้ แถลงการณ์ฉบับดังกล่าวยังระบุอีกด้วยว่า รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนๆเลยแม้แต่น้อย
แถลงการณ์ฉบับดังกล่าวถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งแรกของเกาหลีเหนือ หลังจากที่สหรัฐได้เปิดฉากยิงถล่มซีเรียด้วยขีปนาวุธโทมาฮอว์คจำนวน 60 ลูก เพื่อเป็นการตอบโต้รัฐบาลซีเรียที่ใช้อาวุธเคมีโจมตีกลุ่มกบฏในจังหวัดอิดลิบ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในซีเรียกว่า 70 คนเสียชีวิต
ทั้งนี้ นายทรัมป์ได้มีคำสั่งให้กองทัพสหรัฐยิงจรวดถล่มซีเรีย ในเวลาเดียวกับที่เขาพบมีกำหนดเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีนเป็นครั้งแรก ณ รีสอร์ท Mar-a-Lago ในรัฐฟลอริดา เพื่อหารือกันถึงการยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า การที่นายทรัมป์เลือกโจมตีซีเรียในเวลานี้ เพราะต้องการ "ข่มขวัญ" เกาหลีเหนือที่ดื้อดึงและไม่ยอมยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ เคยได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า สหรัฐสามารถจัดการกับปัญหาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้เอง แม้จีนจะไม่ให้ความร่วมมือในการกดดันเกาหลีเหนือก็ตาม สำนักข่าวเกียวโดรายงาน