ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ของอียิปต์ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศเป็นเวลา 3 เดือน หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่โบสถ์คริสต์นิกายคอปติก 2 แห่งทางตอนเหนือของอียิปต์เมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 110 คน
"ทางรัฐบาลเตรียมใช้มาตรการหลายด้าน ซึ่งมาตรการที่สำคัญที่สุดคือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการจัดตั้งสภาสูงสุด เพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงในอียิปต์" ปธน.ซิซีกล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ
นอกจากนี้ ปธน.ซิซียังได้เน้นย้ำให้สื่อมวลรายงานข่าวด้วยความรับผิดชอบและเป็นที่น่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอียิปต์ร่วมมือกันเพื่อต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย
สำหรับเหตุการณ์ระเบิด 2 ครั้งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ครั้งแรกเกิดขึ้นที่โบสถ์ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ เมืองตันตะ ห่างจากพื้นที่ตอนเหนือของกรุงไคโรออกไปประมาณ 80 กิโลเมตร โดยเหตุการดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเที่ยงวัน ในระหว่างที่มีการเฉลิมฉลองเทศกาลปาล์มซันเดย์ และหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่โบสถ์นิกายคอปติกอีกแห่งหนึ่ง ในเมืองอเล็กซานเดรีย
ทั้งนี้ โบสถ์คริสต์นิกายคอปติกได้ตกเป็นเป้าการโจมตีของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการลอบวางระเบิดโบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงไคโรเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 30 คน